“ดอยเสมอดาว” พาใจเราไปอยู่กับเขา

หากใครเคยได้มีโอกาสไปเยือนยังจังหวัดเล็ก ๆ ทางภาคเหนือที่ผู้คนอาศัยอยู่กันอย่างสงบสุขนามว่าจังหวัดน่าน คงจะมีบ้างที่จะต้องมีคนรู้จักกับอุทยานแห่งชาติศรีน่าน ซึ่งมีพื้นที่ครอบคลุมพื้นที่ถึง 3 อำเภอของจังหวัดน่าน ได้แก่ อำเภอนาน้อย อำเภอนาหมื่น และอำเภอเวียงสา ซึ่ง “ดอยเสมอดาว” นั้นก็เป็นหนึ่งในดอยที่อยู่ในเขตพื้นที่ของเขตอุทยานแห่งชาติศรีน่าน ซึ่งตั้งอยู่ ณ ตำบลศรีสะเกษ อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน เป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวหลายต่อหลายคนต่างอยากมีโอกาสได้ไปสัมผัสกับอากาศดี ๆ กับบรรยากาศของขุนเขาและไอหมอกกันสักครั้งหนึ่ง ด้วยเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวสามารถไปเยือนได้อย่างสะดวกง่ายดาย เป็นที่หมายปลายทางที่สามารถนำรถไปส่งได้แทบจะถึงบริเวณจุดชมวิว หรืออย่างน้อยก็ออกแรงเดินเพียงไม่นานเท่าไหร่เมื่อเทียบกับสถานที่ท่องเที่ยวแนวเดียวกันอื่น ๆ

ณ ที่แห่งนี้เหมาะอย่างยิ่งกับนักท่องเที่ยวที่เดินทางกันมาเป็นครอบครัว ไม่ว่าสมาชิกของครอบครัวนั้น ๆ จะประกอบด้วยเด็ก วัยรุ่น วัยทำงาน หรือกระทั่งผู้สูงอายุ เพราะอย่างที่กล่าวไปแล้วว่าสถานที่แห่งนี้นั้นสามารถเดินทางไปมาได้อย่างสะดวก และที่สำคัญมากไปกว่านั้นบรรยากาศด้านบนดอยก็เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจเป็นอย่างยิ่ง เหตุเพราะนักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปสัมผัสลมหนาว หรืออากาศเย็นด้านบนได้เกือบตลอดทั้งปี เป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นได้ทั้งทะเลหมอกและแสงอาทิตย์แรกยามเช้า ตลอดจนแสงสุดท้ายคราที่ตะวันตกดิน แม้แต่ในยามค่ำคืนเองในวันที่ท้องฟ้าเป็นใจ ก็มีทะเลดาวให้ได้ชมกันอย่างเต็มอิ่ม เรียกได้ว่านอกจากจะเป็นดอยที่เข้าถึงง่ายแล้ว สิ่งที่ได้รับกลับไปนั้นครบทุกบรรยากาศไม่แพ้ยอดเขาที่ต้องบากบั่นไปเป็นหลายกิโลเมตรเลยทีเดียว

สำหรับการเดินทางไปยังสถานที่แห่งนี้ ที่บอกกันว่าเดินทางไปได้ง่าย ๆ ก็เพราะสามารถเดินทางไปถึงด้วยรถส่วนตัว โดยขับรถออกจากตัวเมืองนาน้อย ไปตามถนนทางหลวงหมายเลข 1083 หรือที่รู้จักกันในชื่อถนนสายนาน้อย – ปางไฮ แต่ผู้ที่ทำหน้าที่ขับรถควรจะต้องเพิ่มความระมัดระวังในการบังคับยานพาหนะให้ดี เนื่องจากถนนค่อนข้างคดเคี้ยวตลอดเส้นทาง หรือหากจะใช้บริการรถโดยสารสาธารณะก็ทำได้โดยง่าย เพราะหากออกเดินทางจากกรุงเทพด้วยรถทัวร์สายกรุงเทพ – น่าน แล้วก็เพียงแค่ลงรถที่อำเภอเวียงสา จากนั้นให้ต่อเที่ยวรถประจำทางสายเวียงสา – นาน้อย – นาหมื่น เพื่อลงตรงบริเวณสามแยกบ้านใหม่ จากนั้นเพียงแค่เหมารถสองแถวที่มีไว้บริการบริเวณนั้นก็สามารถไปถึงยังทางเข้าอุทยานฯ ได้ไม่ยาก

ด้วยข้อดีต่าง ๆ ที่กล่าวมาแล้วนั้น ทำให้ดอยเสมอดาวเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่น่าสนใจ ที่นักท่องเที่ยวทั้งหลายไม่ควรพลาดที่จะไปสัมผัสกับบรรยากาศดังกล่าวด้วยตัวเองกันสักครั้ง พาใจเราไปพบกับเขา ไปอยู่กับเขา เพื่อชาร์จพลังกายพลังใจให้ตนเองได้กลับมามีแรงสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ ให้กับโลกใบนี้กันต่อไป

เที่ยวชายหาดชิว ๆ ชมวิวเพลิน ๆ ที่พัทยากันดีกว่า

พัทยายังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับต้น ๆ ที่นักท่องเที่ยวที่ร่างกายต้องการทะเลเลือกที่จะไป เพราะนอกจากจะมีทะเลให้นั่งชิว ๆ และพักผ่อนตามอัธยาศัยแล้ว ยังมีสถานบันเทิงมากมาย ดังนั้นนอกจากพัทยาจะเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทยแล้ว นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางมาเที่ยวที่กรุงเทพฯ และอยากไปเที่ยวชายหาดเมืองไทยที่มีชื่อเสียงระดับโลกก็มักจะเลือกมาเยือนพัทยาเช่นกัน

แต่เดิมพัทยาเป็นเมืองชาวประมงเล็ก ๆ ในอำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ชายหาดของพัทยาจะเป็นชายหาดรูปทรงครึ่งวงกลม เว้าเข้าบนบก ในอดีตสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ได้เคยเดินทางมาพักทัพที่พัทยา นั้นเป็นที่มาของสัญลักษณ์ประจำเมืองพัทยา ที่เป็นรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงม้าด้านหน้าชายหาดนั้นเอง ต่อมาเนื่องจากพัทยามีความสวยงามและเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวอย่างรวดเร็ว ทำให้เมืองรุดหน้าพัฒนาไปอย่างไม่หยุดยั้ง ในปี พ.ศ. 2521 พัทยาได้ถูกเปลี่ยนการปกครองของสุขาภิบาลนาเกลือไปเป็นการปกครองรูปแบบท้องถิ่นพิเศษ มีฐานะเทียบเท่าเทศบาลนคร

โดยพัทยานั้นแบ่งออกเป็นพัทยาเหนือ พัทยากลางและพัทยาใต้ โดยแต่ละแห่งก็จะมีเอกลักษณ์ทีแตกต่างกันไปเล็กน้อย

พัทยาเหนือ เป็นย่านชุมชนเก่า มีอาคารบ้านเรือนแบบโบราณและร้านอาหารอร่อย ๆ หลายแห่ง นอกจากนั้นยังมีทิฟฟานี่โชว์อีกด้วย

พัทยากลาง เป็นจุดที่รวมแหล่งชอปปิ้งและห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ เช่น เซ็นทรัลเฟสติวัล ที่เป็นห้างสรรพสินค้าริมหาดที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน และสถานบันเทิงแบบอะโกโก้และร้านเบียร์มากมาย รวมถึงพิพิธภัณฑ์ชื่อดังระดับโลกอย่าง พิพิธภัณฑ์ริปลีส์

พัทยาใต้ เป็นที่ตั้งของถนนคนเดินและสถานบันเทิงมากมาย หรือหากจะข้ามไปยังเกาะอื่น ๆ ก็สามารถใช้บริการท่าเรือที่แหลมบาลีฮายได้

พัทยาเต็มไปด้วยร้านอาหารทะเลมากมาย ให้นักท่องเที่ยวได้ไปลองรับประทานไป ชมวิวไป โดยร้านอาหารติดทะเลของพัทยานั้นมีมากมายหลายร้านและหลากหลายรูปแบบแตกต่างกันไป โดยร้านอาหารที่เป็นที่นิยมปัจจุบันจะเป็นร้านน่ารัก ๆ สไตล์คาเฟ่ริมทะเล ที่นอกจากจะบริการอาหารแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถถ่ายรูปเล่นในบริเวณร้านได้อีกด้วย

พัทยานั้นขึ้นชื่อเรื่องโรงแรมที่พักมากมาย ทั้งโรงแรมหรูไปจนถึงโฮสเทล ดังนั้นจึงมีนักท่องเที่ยวมากมายหลายแบบที่เดินทางมาพักผ่อนและหาความสนุกกับเมืองท่องเที่ยวชายทะเลแห่งนี้ ทางหน่วยงานรัฐบาลได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของเมืองพัทยา จึงได้มีการจัดระเบียบรูปแบบของร่มเตียงในพัทยาให้มีความเป็นระเบียบ ราคาสมเหตุสมผล ไม่เอาเปรียบนักท่องเที่ยวในช่วงปลายปี พ.ศ. 2560 ซึ่งแน่นอนว่าจะช่วยให้พัทยาเป็นเมืองที่น่าเที่ยวมากขึ้น

นอกจากจะมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายน่าสนใจแล้ว พัทยายังเป็นเมืองท่าที่จะข้ามไปยังเกาะล้าน สถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งที่มีความสวยงามไม่แพ้หาดพัทยา โดยใช้เวลาเดินทางจากพัทยาจากแหลมบาลีฮายในพัทยาใต้ไปยังเกาะล้านเพียงแค่ประมาณ 45 นาทีเท่านั้น

แน่นอนว่าพัทยาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความเจริญ ดังนั้นจึงอาจจะไม่เหมาะกับผู้ที่แสวงหาการพักผ่อนริมทะเลที่สงบ แต่นักท่องเที่ยวชื่นชอบความมีชีวิตชีวาและความบันเทิงยามค่ำคืน ไม่น่าเบื่อ พัทยาก็ตอบโจทย์ได้ดีทีเดียว

เหมืองปิล็อกแห่งบ้านอีต่อง ดินแดนกลางหุบเขา เที่ยวได้แม้หน้าฝน

เหมืองปิล็อกและหมู่บ้านอีต่อง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ติดกับชายแดนไทย-พม่า ในเขตอำเภอทองผาภูมิจังหวัดกาญจนบุรี ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ อีกทั้งยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวสุดยังฮิตสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวแนวธรรมชาติ เยี่ยมชมหมู่บ้านที่ยังคงความเรียบง่ายและมีเอกลักษณ์แบบพื้นเมือง ที่ผู้คนเคยประกอบอาชีพทำเหมืองแร่มาแต่โบราณ อีกทั้งยังเป็นหมู่บ้านที่อยู่ในสายหมอกและเหมาะกับการมาเที่ยวในหน้าฝนเป็นที่สุด

จากเมืองที่อดีตเคยเจริญรุ่งเรืองจากการทำเหมืองแร่ ปัจจุบันกลายเป็นเมืองท่องเที่ยวแบบโฮมสเตย์ สำหรับสัมผัสอากาศบริสุทธิ์และพักผ่อนหย่อนใจ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความเรียบง่ายและเงียบสงบจริง ๆ เหมือนกับการ Shut Down สมอง หรือทำ Social Media Detox ขับสารพิษที่เกิดขึ้นจากการเสพสื่อมากเกินไปที่อาจจะทำให้จิตใจหดหู่ได้เป็นอย่างดีทีเดียว (เพราะที่บริเวณหมู่บ้านนี้เค้าแทบไม่มีสัญญาณโทรศัพท์เลย แต่สัญญาณ Wi-Fi ก็พอมีอยู่ ไม่ต้องเป็นห่วง)

การเดินทางมาที่เหมืองปิล็อกและหมู่บ้านอีต่อง วิธีแรกคือการขับรถส่วนตัว หรือโดยสารรถ บขส. ไปลงที่อำเภอทองผาภูมิ และต่อด้วยรถประจำทางสีเหลืองที่อำเภอทองผาภูมิ เพื่อไปลงที่หมู่บ้านอีต่อง โดยรถโดยสารนี้จะมี 3 รอบใน 1 วัน คือ 10.30 น./ 11.30 น. และ 12.30 น. โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง ก็จะได้เจอกับเมืองเล็ก ๆ อันแสนอบอุ่นในสายหมอกแล้ว

หมู่บ้านอีต่อง มีที่พักมากมายให้นักท่องเที่ยวได้เลือกพักตามอัธยาศัย แต่จุดที่นักท่องเที่ยวนิยมเข้าไปพักมากที่สุดเห็นจะเป็นบริเวณริมบ่อน้ำตรงกลางหมู่บ้าน เพราะมีบรรยากาศที่ดี วิวสวย แค่เดินออกมาชมวิวก็ฟิน คุ้มค่ากับการเดินทางมาแล้ว

บริเวณเหมืองปิล็อกก็เป็นอีกจุดแลนด์มาร์คหนึ่งที่นักท่องเที่ยวเข้าไปถ่ายรูปกับบรรยากาศเหมืองเก่า ที่ในอดีตเคยมีคนงานกว่า 600 คน แต่หลังจากมีการตัดราคาแร่จากจีน เหมืองปิล็อกก็ได้รับผลกระทบอย่างหนักจนต้องปิดตัวลง ซึ่งทามหมู่บ้านยังคงอนุรักษ์ความเป็นเหมืองเอาไว้อย่างสมบูรณ์ ยังคงมีอุปกรณ์และยานพหนะที่ใช้ทำเหมืองในอดีตค่อนข้างครบถ้วน เดินถัดเข้าไปอีกหน่อยก็จะเจอกับน้ำตก จ๊อกกระดิ่น น้ำตกธรรมชาติท่ามกลางสายหมอก จนดูเหมือนหลุดเข้าไปในดินแดนแห่งเทพนิยาย

นอกเหนือจากสถานที่ท่องเที่ยวให้นักท่องเที่ยวได้เดินเล่น ชมวิวชิว ๆ แล้ว อาหารของหมู่บ้านอีต่องก็เป็นอีกจุดขายหนึ่ง เพราะว่าที่นี้เค้ามีอาหารทะเลสด ๆ จากทะเลอันดามัน ที่นำเข้าจากฝั่งพม่า ราคาสมเหตุสมผล เปิดให้บริการอยู่ตามจุดต่าง ๆ ของหมู่บ้าน เพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัวหิวแน่นอน

หลายครั้งที่นักท่องเที่ยวอยากจะเดินทางไปในที่ไกล ๆ และหลีกหนีความวุ่นวายที่เจอในชีวิตประจำวันเพื่อพักสมอง แต่อาจจะไม่สะดวกหรือมีเวลาไม่พอที่จะไปในที่ไกล ๆ ก็สามารถเลือกเดินทางมาที่ หมู่บ้านอีต่อง ได้ เพราะนอกจากจะได้พบกับบรรยากาศอันแสนสงบให้สบายใจ โอโซนสบาย ๆ แล้ว นักท่องเที่ยวยังได้สัมผัสวิถีสโลไลฟ์ ตามสไตล์ชาวบ้านแท้ ๆ อีกด้วย

วังน้ำเขียว ที่พักตากอากาศชั้นเลิศที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ

ใกล้ ๆ กรุงเทพฯ เมืองหลวงของประเทศไทยมีสถานที่พักตากอากาศดี ๆ มากมาย เหมาะกับผู้ที่ต้องการพักผ่อนหย่อนใจจากความตึงเครียดที่เกิดจากการทำงานเป็นระยะเวลาสั้น ๆ ขับรถไปประมาณราว ๆ 3 ชั่วโมงกว่า ๆ เท่านั้น ก็จะเจอกับธรรมชาติสีเขียว และอากาศสดชื่น ที่วังน้ำเขียว ซึ่งเป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดนครราชสีมา

โดยวังน้ำเขียวนั้นมีชื่อ่เสียงจากการติดสถานที่ 1 ใน 7 ของโลกที่มีระดับโอโซนดีที่ที่สุด จนได้รับฉายาว่า ‘Switzerland แดนอีสาน’ ชื่อวังน้ำเขียว นั้นมาจากการที่พื้นที่บริเวณนี้มีวังน้ำที่เป็นสีเขียวมรกต จากความสมบูรณ์ทางธรรมชาติ อีกทั้งยังใสจนกระทั่งสามารถสะท้อนสีเขียวสดใสจากต้นไม้ได้ ด้วยความที่วังน้ำเขียวมีภูมิประเทศส่วนมากอยู่บนภูเขาสูง อากาศเย็นสบาย ป่าไม้อุดมสมบูรณ์ เป็นที่อยู่ของสัตว์ป่าหายากมากมาย มีจุดชมวิวมีชื่อเสียงประจำอำเภออย่าง ผาเก็บตะวัน และอ่างเก็บน้ำบ้านสันกำแพง อีกทั้งยังมีน้ำตกมีชื่อมากมาย เช่น น้ำตกคลองดินดำและน้ำตกขุนโจร เป็นสถานที่ที่เปิดรับนักท่องเที่ยวได้เข้ามาสัมผัสความงดงามของธรรมชาติที่นี้อีกด้วย

นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติแล้ว ผู้ที่ชื่นชอบความงดงามของดอกไม้น่าจะชอบมาเที่ยวที่วังน้ำเขียว เพราะที่นี้เต็มไปด้วยสวนดอกไม้มากมายที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมดอกไม้และถ่ายรูปกับสถานที่สวย ๆ เหมือนอยู่เมืองนอกก็ไม่ปาน ไม่ว่าจะเป็น ฟ้าประทาน ฟลอร่า พาร์ค The Little Garden และ The Little Garden วังน้ำเขียว เป็นต้น

นอกจากที่พักอันแสนสวยงาม เหมาะกับผู้ที่ต้องเข้ามาพักผ่อน ที่วังน้ำเขียวนั้นยังมีอากาศที่เย็นและสดชื่น เหมาะกับการเพาะปลูกผลไม้และดอกไม้มากมายเป็นอย่างมาก วังน้ำเขียวจึงกลายเป็นสถานที่ที่สร้างอาชีพมากมายให้กับคนในท้องที่ วังน้ำเขียวยังเต็มไปด้วยฟาร์มและสวนผลไม้มากมายที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปศึกษาและชมการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นที่ เขาแผงม้า ซึ่งเป็นโครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติฯ ซึ่งมีความสำคัญเป็นแหล่งอนุรักษ์ฝูงกระทิงฝูงสุดท้ายของประเทศไทย วิลเลจฟาร์ม แอนด์ ไวน์เนอรี่ สวนปลูกไวน์พร้อมบริการร้านอาหารและจัดจำหน่ายไวน์ชั้นดีที่เป็นผลิตภัณฑ์ของสวนไวน์อีกด้วย

สถานที่ท่องเที่ยวที่มีมากมายหลายสไตล์ในวังน้ำเขียวนั้นตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการไปเที่ยวพักผ่อนในระยะสั้น โดยเหมาะกับนักท่องเที่ยวทุกรูปแบบและหลากหลายช่วงวัยด้วยกัน เช่น ครอบครัวที่ต้องการหาเวลาว่างอยู่ด้วยกัน ต้องการหากิจกรรมสนุก ๆ ทำในวันหยุดปลายสัปดาห์ ไม่ว่าจะเป็นหาร้านอาหารอร่อย ๆ ทาน เดินชมสวนดอกไม้ หรือนอนพักผ่อนในรีสอร์ทที่รายล้อมไปด้วยภูเขาและอากาศเย็น ๆ ทำให้วังน้ำเขียวเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวพักอากาศยอดฮิตในประเทศไทย

เที่ยวเขาใหญ่ ชมธรรมชาติท่ามกลางความศิวิไลซ์

เขาใหญ่ เป็นอุทยานแห่งชาติที่แรกของประเทศไทย โดยตั้งอยู่บริเวณเทือกเขาพนมดงรักในทีราบสูงโคราช มีความอุดมสมบูรณ์ไปด้วยพันธุ์ไม้มากมายและสัตว์ป่าตามธรรมชาติ จนได้รับสมญานามอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า “อุทยานมรดกแห่งอาเซียน” ด้วยความที่เต็มไปด้วยธรรมชาติสีเขียว ๆ รอบบริเวณ จึงทำให้มีอากาศที่ไม่ร้อนมากโดยเฉพาะบริเวณที่ราบสูงบนภูเขาจะมีอากาศที่เย็นเป็นพิเศษในช่วงฤดูหนาว จึงกลายเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไปพักผ่อนตากอากาศในช่วงวันหยุด

แหล่งน้ำตกมากมาย สำหรับผู้ที่อยากเสพธรรมชาติ

บริเวณเขาใหญ่เป็นต้นกำเนิดของลำธารที่สำคัญ 5 สาย คือห้วยมวกเหล็ก แม่น้ำลำตะคลอง แม่น้ำปราจีนบุรี แม่น้ำนครนายก และแม่น้ำลำพระเพลิง อีกทั้งยังมีน้ำตกสวย ๆ มากมายให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาเยี่ยมเยือน ไม่ว่าจะเป็น น้ำตกนางรอง น้ำตกสาริกา ที่อยู่ในพื้นที่ของจังหวัดนครนายก และ น้ำตกเหวนรก น้ำตกสามชั้นที่มีทั้งความสวยและความอันตราย

กิจกรรมทางธรรมชาติ สำหรับผู้ที่รักการผจญภัย

เนื่องด้วยเขาใหญ่เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีความอุดมสมบูรณ์มาก มีต้นไม้มากมายเป็นที่พักนักอาศัยของสัตว์ป่าและนกพันธุ์หายาก ดังนั้นจึงมีกิจกรรมสำหรับผู้ที่อยากจะศึกษาธรรมชาติมากมายด้วยเช่นกันไม่ว่าจะเป็นการส่องสัตว์ การเดินป่าค้างคืนแบบ Trekking หรือการเดินป่าเพื่อศึกษาธรรมชาติ กิจกรรมดูนก ขี่จักรยาน ไปจนถึงล่องแก่งอีกด้วย (แน่นอนว่ากิจกรรมการเดินป่าทุกรูปแบบจะต้องขออนุญาติเจ้าหน้าที่ก่อนทุกครั้ง)

พักผ่อนร่างกาย ปล่อยใจไปกับที่พักและอาหารเลิศรส

ไม่ใช่แค่กิจกรรมทางธรรมชาติเท่านั้น เขาใหญ่ยังเป็นแหล่งตากอากาศชื่อดังแห่งหนึ่งในประเทศไทย โดยมีนักท่องเที่ยวเข้าไปเยือนปีละกว่า 1 ล้านคนโดยเฉลี่ย จากความที่มีอากาศอันแสนบริสุทธิ์ เขาใหญ่มีโรงแรมที่พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวกว่า 300 แห่ง ตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ของนักท่องเที่ยว โดยโรงแรม ที่พักหรือรีสอร์ทแต่ละแห่งก็มีจุดขายและกิจกรรมที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นชี่ม้า หรือยิงธนู ไปจนถึงกิจกรรมให้อาหารแกะ ที่ฟาร์มแกะหลากหลายแห่งในเขาใหญ่อีกด้วย

Community Mall ท่ามกลางธรรมชาติ

นอกเหนือจากโรงแรม ที่พักและรีสอร์ทที่เสนอกิจกรรมสนุกสนานมากมายให้กับแขกผู้มาพักหรือนักท่องเที่ยวที่มาเยือน ยังมี Community Mall ที่เป็นศูนย์รวมร้านอาหารและสถานที่จับจ่ายซื้อของรับประทานและของฝาก เช่นปาลิโอ เขาใหญ่ ที่นอกจากจะเปิดให้บริการร้านค้าและร้านอาหารมากมายแล้ว ยังเป็นสถานที่ถ่ายรูปยอดฮิตของนักท่องเที่ยวที่ไปเยือนเขาใหญ่เนื่องจากมีการออกแบบสถาปัตยกรรมภายในให้เมืองกับเมืองเก่าในยุโรป ซึ่งมีความแปลกใหม่จากที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ

คาเฟ่ฮอปปิ้ง กิจกรรมของสุดฮิตคนรุ่นใหม่ที่สามารถทำได้ที่เขาใหญ่

หากนักท่องเที่ยวเบื่อการถ่ายรูปตาม Community Mall แล้ว ก็สามารถทำกิจกรรมที่ตอนนี้คนรุ่นใหม่นิยมทำกันมากเช่น การเที่ยวตามร้านคาเฟ่ (Café Hopping) คือการไปเยือนร้านอาหารแบบ คาเฟ่ ที่มีบริการกาแฟและขนมด้วย ส่วนมากร้านประเภทนี้จะไม่ได้มีแค่อาหารและเครื่องดื่มไว้บริการเสมอไป แต่มีมุมสวย ๆ และการออกแบบร้านที่แปลกและแหวกแนว เอาไว้เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปสวย ๆ ลงในโซเชียลมีเดียของตนเองด้วย

แน่นอนว่าเขาใหญ่ เป็นสถานที่พักตากอากาศของผู้ที่มีไลฟ์สไตล์มากมายหลายแบบ ไม่ใช่แค่การเดินป่า ดูนกส่องสัตว์ แต่ผู้ที่ชอบความชิค ๆ เก๋ ๆ และอยากได้รูปไปอวดเพื่อน ๆ ในโซเชี่ยล มีเดียด้วย นี้คือเหตุผลที่เขาใหญ่ ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ฮิตติดตลาดอยู่ตลอด

นั่งชิว ๆ ริมทะเลและเที่ยวชมสถาปัตยกรรมชิโนโปรตุกีสที่ภูเก็ต

ภูเก็ตเป็นจังหวัดที่อยู่ทางภาคใต้ของประเทศไทยและอยู่ในทะเลอันดามัน ดังนั้นจึงเต็มไปด้วยชายหาดที่สวยงามและมีชื่อหลายแห่ง มีแหล่งชมธรรมชาติที่สวยงามและสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศมากมาย เช่น หาดป่าตอง แหลมพรหมเทพ และหาดราไวย์ แต่ไม่ได้มีเพียงแค่ความสวยงามของชายหาดตามธรรมชาติแห่งทะเลอันดามันเท่านั้นที่เป็นเอกลักษณ์ที่หาชมที่ไหนได้ยาก เมืองภูเก็ตยังเต็มไปด้วยย่านเมืองเก่า อาคารชิโน-โปรตุกีส ซึ่งอยู่ในบริเวณตัวเมืองภูเก็ต ถูกสร้างตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5

ทะเลใส และกิจกรรมมากมายสำหรับนักท่องเที่ยว

นักท่องเที่ยวสามารถเลือกใช้เวลานั่งพักผ่อนได้ที่หาดป่าตอง ซึ่งเป็นหาดที่มีชื่อเสียงมากในภูเก็ต และมีกิจกรรมน่าสนุกให้เลือกทำมากมายไม่ว่าจะเป็น สปีดโบ๊ทและเจ็ตสกี เป็นต้น นอกจากนั้นก็ยังมีหาดราไวย์ ที่เต็มไปด้วยร้านอาหารไทยอร่อย ๆ และอาหารนานาชาติ และอย่าลืมไปเยือนแหลมพรหมเทพ ที่ว่ากันว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดในเมืองไทย เป็นจุดที่เหมาะที่สุดที่จะชมพระอาทิตย์ตกดิน อยู่ห่างจากตัวเมืองภูเก็ตไปทางใต้แค่ประมาณ 19 กิโลเมตร เหมาะจะมาเยือนในช่วงฤดูร้อนเป็นที่สุด และก็อย่าลืมไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์กันซักหน่อยที่จุดชมวิวพุทธอุทยานยอดเขานาคเกิด ที่บนยอดเขามี พระพุทธรูปปางมารวิชัยองค์ใหญ่ที่ทำจากหยกหินอ่อนสีขาวประดิษฐานอยู่ ที่จุดชมวิวนี้ นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นชายหาดได้หลายแห่งไม่ว่าจะเป็น เกาะเฮ อ่าวฉลอง เกาะโหลน และอ่าวมะขามได้ และจะยิ่งสวยเป็นพิเศษยามพระอาทิตย์ตกดิน

อาคารชิโน-โปรตุกีส มรดกทางสถาปัตยกรรมอันทรงคุณค่า

ภูเก็ตเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานเมืองหนึ่งของประเทศไทย เมื่อปี พ.ศ. 2446 นักธุรกิจทั้งชาวตะวันตกและชาวจีนได้หลั่งไหลเข้ามาในภูเก็ต เนื่องจากการทำเหมืองแร่ในภูเก็ตนั้นเจริญก้าวหน้า ทำให้เกิดสิ่งปลูกสร้างที่เป็นการผสมผสานศิลปะแบบตะวันตกและตะวันออกเข้าด้วยกัน กลายเป็นตึกแบบ ชิโน-โปรตุกีส เกิดขึ้นไปทั่วตัวเมือง โดยนอกจากภูเก็ตแล้ว เรายังสามารถเห็นสถาปัตยกรรมแบบนี้ได้ที่มาเลเซีย แต่ก็ไม่สมบูรณ์เท่าที่ประเทศไทย โดยจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมเข้าไปชมอาคารแบบชิโน-โปรตุกีสได้ที่ถนนถลาง – ซอยรมณีย์ ที่จะมีบ้านแบบชิโน-โปรตุกีสเรียงรายติดกันทั้ง 2 ด้าน และถนนพังงา

ภูเก็ตเป็นจังหวัดที่เดินทางไปเที่ยวได้ไม่ลำบากนัก เพราะมีสนามบินภูเก็ตที่ใช้เวลาเดินทางจากสนามบินในกรุงเทพเพียงแค่ 1 ชั่วโมงกว่า ๆ นอกจากนั้นยังเป็นเมืองที่มีที่เที่ยวหลากหลาย มีสถาปัตยกรรมอันแสนมีเสน่ห์ มีอาหารที่อร่อย ร้านคาเฟ่น่ารัก ๆ จุดชมวิวที่งดงามและทะเลที่ทางการประเทศไทยดำเนินการบำรุงและฟื้นฟูให้กลับมาสวยงาม จึงไม่แปลกใจเลยที่ภูเก็ตจะกลายเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญอีกเมืองหนึ่งของประเทศไทย ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

Category: ท่องเที่ยวไทย

Tag: ภูเก็ต, อาคารชิโน-โปรตุกีส, ทะเลภูเก็ต

เครดิตภาพ : https://pixabay.com/en/thailand-phuket-koh-phi-phi-1451382/



Tokyo Disney Sea ดินแดนแห่งเทพนิยายแห่งญี่ปุ่น

ญี่ปุ่นยังคงเป็นประเทศแรก ๆ ในเอเชียที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เลือกไปเที่ยว เพราะว่าสถานที่ท่องเที่ยวเยอะมาก แถมยังเที่ยวได้ทุกฤดู นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติแล้ว ยังมีสวนสนุกที่ขึ้นชื่อและติดอันดับโลกจาก The Walt Disney Company บริษัทสื่อบรรเทิงเพื่อความบันเทิงขนาดใหญ่ หรือที่เรารู้จักกันดีอย่าง Disney อีกด้วย โดยที่ญี่ปุ่นนี้จะมีสวนสนุกของ Disney ทั้งหมด 2 ที่ด้วยกันคือ Tokyo Disney Land และ Tokyo Disney Sea โดยเราจะมาแนะนำ Tokyo Disney Sea ซึ่งเป็น Disney Sea แห่งเดียวในโลกกัน

ความโดดเด่นของ Tokyo Disney Sea จะไม่เหมือนกับสวนสนุกอื่น ๆ ร่วมค่ายอย่าง Tokyo Disney Land ซะทีเดียว โดย Tokyo Disney Sea จะเน้นเป็นเมืองจำลองแบบอเมริกายุคเก่า เป็นเมืองริมอ่าวอันแสนคลาสสิค โดยมีจุดแลนด์มาร์คของสวนสนุกอย่างภูเขาไฟที่ชื่อว่า Prometheus ซึ่งตั้งอยู่หลังทะเลสาป ใจกลาง Tokyo Disney Sea นั่นเอง

โดย Tokyo Disney Sea เค้าจะมีอยู่ด้วยกัน 7 โซนหลัก ๆ

  1. Port Discovery โซนของเล่นน้ำ และโซนเครื่องเล่นสำหรับเด็ก
  2. American Waterfront โซนจำลองบรรยากาศเมืองท่าแบบอเมริกันในยุคเก่า
  3. Lost River Delta โซนจำลองเมืองโบราณของชนเผ่า
  4. Arabian Coast โซนเมืองจำลองที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากอาหรับราตรี
  5. Mermaid Lagoon โซนจำลองเมืองใต้ทะเลจากเรื่อง Little Mermaid มีทั้งกลางแจ้งและในร่ม เป็นโซนที่เต็มไปด้วยเครื่องเล่นสำหรับเด็ก
  6. Mysterious Island โซนจำลองสิ่งก่อสร้างที่อยู่ในระหว่างขุดถ้ำ
  7. Mediterranean Harbor โซนจำลองหมู่บ้านริมน้ำสไตล์เมดิเตอร์เรเนี่ยน เต็มไปด้วยร้านอาหารน่ารัก ๆ

โดยแต่ละโซนเค้าก็จะมีเครื่องเล่นเด็ด ๆ ที่ต่างกันออกไป ข้อดีของ Tokyo Disney Sea คือเครื่องเล่นเค้าจะไม่คล้ายกับเครื่องเล่นอื่น ๆ ในเครือของ Tokyo Disney Land ซึ่งถือว่ามีความเป็นเอกลักษณ์และแปลกใหม่พอสมควรเลยทีเดียว นอกจากนั้นยังเป็นสถานที่ที่เหมาะกับการมาเดท หรือมาถ่ายรูปเล่นอีกด้วย เพราะว่ามีมุมสวย ๆ แปลก ๆ จำลองหมู่บ้านริมน้ำแบบยุโรป ที่ทั้งสวยงามและมีสีสันออกมาได้ดีจริง ๆ แถมยังมีขบวนพาเหรด การแสดงกลางน้ำ และการแสดงภูเขาไฟที่น่าตื่นตาตื่นใจไม่แพ้ Tokyo Disney Land อีกด้วย

อีกสิ่งหนึ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจมาก ๆ คือภายในสวนสนุกก็คือมีอาหารและขนมที่อร่อยและน่ารักสุด ๆ เช่น ขาไก่รมควัน ป๊อปคอร์นรสแปลก ๆ โมจิไอศกรีมและชูโรสโรยน้ำตาล เป็นต้น แถมราคาไม่แพงมาก เรียกได้ว่าไม่ต้องอาหารอาหารหลักทานกันเลยสำหรับสาว ๆ เพราะว่าแค่ซื้อขนมทานระหว่างเดินถ่ายรูปและเล่นเครื่องเล่นก็อยู่ท้องแล้วล่ะ

นักท่องเที่ยวที่เป็นแฟนคลับ Disney มากมาย อาจจะเดินทางเพื่อไปเยือน Tokyo Disney Land ซึ่งเป็นสวนสนุกชื่อดังที่ใคร ๆ ก็อยากมาเที่ยว แต่ Tokyo Disney Sea เองก็มีจุดเด่นที่น่าสนใจ น่าไปเยือนไม่แพ้กัน สำหรับแฟนคลับ Disney หากเป็นไปได้ก็เดินทางไปทั้ง 2 ที่เลยก็ได้นะ รับรองไม่ผิดหวัง

ทริปหลักพัน วิวหลักล้าน เป็นไปได้ที่บานาฮิลล์ ประเทศเวียดนาม

ตอนนี้เวียดนามเป็นประเทศท่องเที่ยวที่มาแรงมาก ๆ ในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทย เพราะนอกจากจะราคาไม่แพง ไปง่าย เที่ยวง่ายแล้ว วิวยังสวยมาก ๆ บรรยากาศดี เหมือนไปเที่ยวยุโรปในราคาที่ไม่แพงไปกว่าเที่ยวในเมืองไทยเลยทีเดียว โดยหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่กำลังฮิตสุด ๆ ก็คือบานาฮิลล์ แห่งจังหวัดดานัง ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของเวียดนามนั้นเอง

บานาฮิลล์ (Ba Na Hills)ได้รับการขนานนามว่าเป็นเมืองยุโรปแห่งดินแดนเอเชียตะวันออก ถึงแม้จะอยู่ในจังหวัดดานังที่เป็นเมืองเขตร้อน แต่อากาศไม่ร้อนเลยเพราะอยู่บนยอดเขา ต้องนั่งกระเช้าไฟฟ้าขึ้นไปเท่านั้น อีกทั้งยังมีหมอกปกคลุมบาง ๆ ทำให้อากาศเย็นสบาย สามารถท่องเที่ยวได้ทั้งปี สาเหตุที่เมืองนี้เหมือนกับยุโรปก็คือเมืองได้มีการนำเอาแผนการวางผังเมืองจากฝรั่งเศสมาใช้ และในเมืองก็ยังมีสถานที่ต่าง ๆ ให้นักท่องเที่ยวได้เดินชม ตั้งแต่โรงแรมสำหรับให้นักท่องเที่ยวมาพัก ร้านอาหาร สวนสนุก สวนดอกไม้ อีกทั้งยังมีกระเช้าไฟฟ้าที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นกระเช้าไฟฟ้าที่ยาวที่สุดในโลก (ยาว 5,801 เมตร และสูง 1,368 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล)

สะพานริมเขา Land mark ที่ทุกคนต้องไปเยือน

โดยหนึ่งใน Land mark อันเป็นเอกลักษณ์ของบานาฮิลล์ คือสะพานสีทองริมเขา (Golden Bridge) ที่ถูกออกแบบมาให้เหมือนมีมือหินประคองสะพานที่เว้าตามภูเขาอยู่ ดูสวยงามและยิ่งใหญ่ โดยสูงเหนือกว่าระดับน้ำทะเลกว่า 1,400 เมตร

นอกจากสะพานสีทองอันแสงอลังการ เหมาะกับการมาชมวิวแล้ว ก็ยังมีหมู่บ้านฝรั่งเศส (French Village) ซึ่งรายล้อมไปด้วยสิ่งปลูกสร้างสไตล์ฝรั่งเศส สวยงามและคลาสสิค ให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปและซื้อของฝากกลับไปอีกด้วย ส่วนผู้ที่ชื่นชอบความตื่นเต้นเร้าใจ ที่นี้ก็มีสวนสนุกที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากหนังสือเรื่อง  เรื่อง Journey To The Center of the Earth และ 20,000 Leagues Under The Sea ประพันธ์โดย Jules Verne ซึ่งเป็นนักเขียนชาวฝรั่งเศสชื่อดัง (แน่นอนว่าหนังสือเรื่องนี้เคยทำเป็นภาพยนต์มาแล้ว) มีพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเวียดนาม ชื่อว่า Ba Na Wax Statue Museum

ในส่วนของวัดก็มีทั้งวัดนิกายเชน Tombstone Temples ที่โดดเด่นไปด้วยสถาปัตยกรรมและเรื่องราวทางศาสนาเชน ไปจนถึงวัด Linh Phong Tu Temple ซึ่งเป็นวัดแบบจีน มีเจดีย์ 9 ชั้นสีขาวสวยงามโดดเด่น วัด Linh Chua linh Tu Temple ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปองค์ใหญ่สีขาว Linh Ung Pagoda ที่เป็นจุดถ่ายรูปซุ้มจีน โดยมีฉากหลังเป็นท้องฟ้าและก้อนเมฆสูงจากระดับน้ำทะเลกว่า 1,500 เมตร

จากการท่องเที่ยวบานาฮิลล์ในประเทศเวียดนาม เราจะเห็นได้ถึงการผสมผสานศิลปะและวัฒนธรรมทั้งของตะวันออกและตะวันตกเข้าไว้ด้วยกันอย่างสวยงามและกลมกล่อม บ่งบอกถึงความเป็นมาของประเทศได้เป็นอย่างดี  ถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่แปลกใหม่ เป็นทางเลือกใหม่ของนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบทั้งธรรมชาติและศิลปะวัฒนธรรมในราคาที่เอื้อมถึง สบายกระเป๋าแน่นอน

ภูเขาไฟฟูจิ ธรรมชาติแสนยิ่งใหญ่ที่เปรียบเป็นลมหายใจของศิลปะญี่ปุ่น

หากจะพูดถึงประเทศเก่าแก่ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากมาย ญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในประเทศที่เรานึกถึงเสมอ ไม่ว่าจะเป็นภัยพิบัติธรรมชาติ หรือไฟของสงครามที่เคยพัดผ่านประเทศแห่งนี้มา ล้วนแล้วแต่ไม่อาจจะทำอะไรประเทศที่แสนแข็งแกร่งนี้ได้ นอกจากนั้น ญี่ปุ่นยังเป็นหนึ่งในประเทศที่น่าไปเที่ยวมาก ๆ เพราะนอกจากจะมีอาหารอร่อย ๆ มากมายที่ขึ้นชื่อในระดับโลกแล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ ทั้งทางวัฒนธรรมและธรรมชาติอีกด้วย

หนึ่งในสิ่งที่นักท่องเที่ยวอยากดั้นด้นเดินทางไปชมที่สุดเห็นจะเป็นภูเขาไฟฟูจิ หรือ ฟูจิซัง ภูเขาไฟลูกใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่ในภูมิภาคคันโต ภูเขาไฟฟูจินั้นเป็นสัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่นได้และรับการยกย่องจาก UNESCO ให้เป็นหนึ่งในมรดกโลก เราจะได้เห็นทั้งภาพวาดและศิลปะต่าง ๆ ของญี่ปุ่นตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันที่บอกเล่าความยิ่งใหญ่ของภูเขาไฟลูกนี้ โดยรอบ ๆ ภูเขาไฟฟูจิจะทีที่ราบลักษณะเป็นแอ่งจากการปะทุของความร้อนใต้ภูเขาไฟฟูจิ เกิดเป็นทะเลสาปขนาดใหญ่ทั้งหมด 5 ทะเลสาปด้วยกันได้แก่ ได้แก่ทะเลสาป Kawaguchiko ทะเลสาป Saiko ทะเลสาป Shojiko ทะเลสาป Motosuko และทะเลสาป Yamanakako (สุดตะวันออก)

จุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิที่เป็นที่นิยม

นักท่องเที่ยวสามารถชมวิวของภูเขาไฟฟูจิได้ โดยจะมีจุดที่เป็นบริเวณชมวิวที่ดีที่สุด และเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว 2 จุดด้วยกันคือที่คาวากูจิโกะและฮาโกเน่นั้นเอง

คาวากูจิโกะ เป็นทะเลสาปที่อยู่ใกล้กับภูเขาไฟฟูจิ ดังนั้นเราจึงสามารถเห็นวิวภูเขาไฟฟูจิได้อย่างชัดเจน โดยทะเลสาปนี้ติดกับทางตอนใต้ของจังหวัดยามานาชิ  เป็นเมืองเล็ก ๆ ที่แสนเงียบสงบ มีรถ Retro bus ค่อยให้บริการวิ่งรอบ ๆ ทะเลสาป เป็นการคมนาคมสาธารณะเดียวที่จะช่วยให้นักท่องเที่ยวเที่ยวตามจุดต่าง ๆ รอบ ๆ ทะเลสาปได้ ไม่ว่าจะเป็นขึ้น Rope way ไปชมภูเขาไฟฟูจิและวิวเมืองจากมุมสูง และเจดีย์ Chureito

ฮาโกเน่ เป็นเมืองที่อยู่ไม่ไกลจากโตเกียวมากนัก อยู่ทางตะวันตกประมาณ 70 กิโลเมตรเท่านั้น ทำให้เป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยว นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมต่าง ๆ ที่โดนใจนักท่องเที่ยวเช่นขึ้น Rope way ไปทานไข่ดำ ที่ว่ากันว่าหากได้ทานแล้วจะมีอายุยืนไปอีก 7 ปี (แน่นอนว่าไข่ดำนี้ถูกทำให้สุกด้วยน้ำร้อนภูเขาไฟที่มีแร่ธาตุมากมายนั้นเอง) และยังเป็นแหล่งแช่ออนเซ็นที่มีให้เลือกหลากหลายแบบทั้งในร่ม กลางแจ้ง ไปจนถึงออนเซ็นไวน์!

ญี่ปุ่นนั้นเป็นประเทศที่ว่ากันว่ามากี่ครั้งก็ไม่เบื่อ แถมยังเที่ยวได้ทุกฤดู โดยแต่ละฤดูก็จะมีความสวยงามที่แตกต่างกันไป ล้วนแล้วแต่ตราตรึงใจผู้มาเยือนทั้งนั้น หากมีโอกาส อย่าลืมลองไปสัมผัสความมีเสน่ห์ของประเทศญี่ปุ่นกันนะ

ตื่นตาตื่นใจกับพืชพรรณตระการตา ที่ Gardens by the Bay

สิงคโปร์เป็นประเทศเล็ก ๆ ที่อยู่ติดกับมาเลเซีย เมื่อก่อนสิงคโปร์ถือเป็นประเทศเดียวกับมาเลเซีย โดยเพิ่งมาแยกจากกันในช่วงปี ค.ศ.1960 จากนั้นประเทศสิงคโปรก็พัฒนาอย่างรวดเร็ว พูดเลยได้ว่านอกจากเศรษฐกิจที่น่าจับตามองแล้ว การท่องเที่ยวที่สิงคโปร์ตอนนี้ก็ถือว่าน่าสนใจเหมือนกัน แม้จะเป็นประเทศเล็ก ๆ ที่มีขนาดใหญ่กว่าจังหวัดภูเก็ตของเมืองไทยเพียงแค่นิดเดียวเท่านั้น แต่ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย ดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าไปในประเทศต่อปีได้อย่างมากมาย

บ้านเมืองสีเขียวของประเทศสิงคโปร์

ประเทศสิงคโปร์เป็นประเทศที่มีอากาศร้อนชื้นและมีฝนตกเกือบตลอดทั้งปี มีอากาศไม่ต่างจากเมืองไทยเท่าไหร่ แต่เมื่อเราได้เยือนสิงคโปร์ เราจะได้เห็นต้นไม้มากมาก มีสีเขียวเรียงรายอย่างมีระเบียบตามทางเดินและกลางท้องถนนเ ถึงแม้ว่าพื้นที่ส่วนมากจะเป็นตึกสูง แต่ก็มีต้นไม้ที่คอยทำให้อากาศไม่ร้อนอบอ้าวจนเกินไปนักก็ว่าได้ โดยเราจะเห็นได้ว่าประเทศสิงคโปร์มีการเล็งเห็นถึงความสำคัญของธรรมชาติพอสมควร

Marina Bay Sand สวนที่รวมความศิวิไลซ์และธรรมชาติเข้ากันอย่างกลมกลืน

สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งของสิงคโปร์เลยคือ Gardens by the Bay ที่โดดเด่นด้วยต้นไม้ยักษ์สีสันสดใส ครอบด้วยเหล็กที่ผ่านการออกแบบมาให้คล้ายกับต้นไม้ และมีต้นไม้เลื้อยอยู่ภายในสูงตระหง่าย โดยต้นไม้นี้เรียกว่า Supertree Grove มีขนาดเท่ากับตึกสูง 16 ชั้น และจะยิ่งสวยงามมากเมื่อเปิดไฟเด่นในยามค่ำคืน โดยนักท่องเที่ยวสามารถซื้อบัตรเดินขึ้นไปเที่ยวข้างบน Supertree Grove ที่มีชื่อเรียกว่า OCBC Skyway ได้อีกด้วย

หรือหากอยากจะชมพืชพรรณนานาชนิด นักท่องเที่ยวสามารถซื้อบัตรเข้าไปชมในโดมเรือนกระจกที่ไม่ใช้เสาในโครงสร้างที่ใหญ่ที่สุดของโลก และมีการจัดแสดงต้นไม้และดอกไม้หายากมากมาย พร้อมด้วยงานศิลปะจากศิลปินชื่อดัง ที่บ่งบอกความเอกลักษณ์และความเป็นมาของประเทศสิงคโปร์ได้อย่างชัดเจน โดยเค้าจะมี 2 โดมให้นักท่องเที่ยวเลือกชมกันนั้นคือ Flower Dome และ Cloud Forest

Flower Dome จะเป็นโดมเรือนกระจกปรับอากาศที่เต็มไปด้วยดอกไม้สวย ๆ มากมาย บางครั้งก็จะมีการจัดนิทรรศการแสดงดอกไม้สวย ๆ จากต่างประเทศตามฤดูกาลอีกด้วย

Cloud Forest คือโดมเรือนกระจกที่มีการออกแบบที่สวยงามล้ำสมัย จัดแสดงพันธุ์ไม้ป่าดิบชื้น พร้อมน้ำตกที่สูงกว่า 35 เมตร นักท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้นไปชมบนน้ำตกได้ด้วย ซึ่งน้ำตกนี้ได้รับการยอมรับว่าเป็นน้ำตกในร่มที่ใหญ่ที่สุดของโลก

แม้จะเป็นบ้านเมืองที่เต็มไปด้วยความเจริญ แต่สิงคโปร์ก็ยังไม่ได้มองข้ามความสำคัญของธรรมชาติสีเขียว ที่จะทำให้เมืองน่าอยู่ขึ้นและมีอากาศที่บริสุทธิ์ สำหรับให้นักท่องเที่ยวได้สูดอากาศสดชื่นตลอดเวลาที่เดินทางท่องเที่ยวในเมือง แถมยังทำให้คนที่อาศัยอยู่ในประเทศมีสุขภาพจิตใจและร่างกายที่ดีอีกด้วย ถือว่าเป็นแนวคิดที่น่ายกย่องและชมเชยจริง ๆ