ไม่ต้องบินไกลก็สามารถชมความงามของดอกซากุระญี่ปุ่นได้ บนดอยอ่างขาง

ดอกซากุระถือเป็นหนึ่งในสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้ไปเยือนประเทศญี่ปุ่น โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลฮานามิ ซึ่งถือเป็นวัฒนธรรมการชมดอกไม้ที่อยู่คู่กับชาวญี่ปุ่นมาช้านาน โดยในปัจจุบันนักท่องเที่ยวชาวไทยนั้นไม่จำเป็นต้องบินข้ามน้ำข้ามทะเลไปไกลถึงแดนอาทิตย์อุทัยก็สามารถชื่นชมความงามของดอกซากุระญี่ปุ่นได้ที่ดอยอ่างขาง จังหวัดเชียงใหม่นี่เอง

ในประเทศไทยมีต้นนางพญาเสือโคร่ง ซึ่งมีดอกสีชมพูและเป็นต้นไม้วงศ์กุหลาบ (Rosaceae) เช่นเดียวกับต้นซากุระของประเทศญี่ปุ่น จนได้รับฉายาว่าเป็นซากุระเมืองไทย โดยต้นนางพญาเสือโคร่งนั้นจะขึ้นตามไหล่เขาที่มีอากาศเย็น จึงพบมากในบริเวณภาคเหนือตอนบน มีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งชูดอกนางพญาเสือโคร่งเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นที่ดอยอินทนนท์, ขุนช่างเคี่ยน, ขุนแม่ยะ, ดอยช้าง-ดอยวาวี, ดอยแม่ตะมาน, ดอยผาตั้ง หรือดอยแม่สลอง แต่สำหรับที่ดอยอ่างขางนั้น นอกจากจะเต็มไปด้วยต้นนางพญาเสือโคร่งแล้ว ในสถานีเกษตรหลวงอ่างขางยังได้ปลูกต้นซากุระสายพันธุ์ญี่ปุ่นไว้อีกด้วย

สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง ตั้งอยู่บนเทือกเขาแดนลาว ตำบลแม่งอน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ที่แห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นโครงการหลวงแห่งแรกของประเทศไทย ที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงพลิกฟื้นผืนดินจากดอยเขาหัวโล้นให้กลายมาเป็นแหล่งผลิตพืชผักผลไม้เมืองหนาวอันอุดมสมบูรณ์อย่างในปัจจุบัน โดยการนำต้นซากุระมาปลูกในประเทศไทยนั้นมีจุดเริ่มต้นมาจากเมื่อครั้ง “หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี” องค์ประธานมูลนิธิโครงการหลวงได้เสด็จประเทศญี่ปุ่น และทราบว่าประเทศญี่ปุ่นมีการจัดเทศกาลฮานามิ ท่านจึงได้นำต้นซาระมาปลูกไว้บริเวณรอบ ๆ สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2540 ก่อนที่ต่อมาจะนำต้นเชอร์รี่ไต้หวัน ซึ่งมีลักษณะเดียวกันมาปลูกเพิ่มเติมเมื่อปี พ.ศ. 2551 ทำให้ปัจจุบันมีต้นซากุระญี่ปุ่นและต้นเชอร์รี่ไต้หวันปลูกรวมกันกว่า 3,000 ต้นทั่วสถานเกษตรหลวง และเมื่อเข้าสู่หน้าหนาวพันธุ์ไม้ทั้ง 3 ชนิดอย่างต้นซากุระ, ต้นเชอร์รี่ไต้หวัน และต้นนางพญาเสือโคร่งจะออกดอกบานสะพรั่ง ดอยอ่างขางจึงกลายเป็นดินแดนสีชมพูแสนโรแมนติก

ดอกซากุระที่สถานีเกษตรหลวงอ่างขางจะเริ่มบานในช่วงเดือนมกราคมของทุกปี โดยนักท่องเที่ยวสามารถชมดอกซากุระจากประเทศญี่ปุ่นได้ที่สวนเฉลิพระเกียรติ 80 พรรษา และสวนกุหลาบอังกฤษ รวมไปถึงตลอดสองข้างทางภายในสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง โดยนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางด้วยการใช้ถนนหลวงหมายเลข 107 เส้นทางเชียงใหม่-ฝาง

นอกจากจะได้ชื่นชมความสวยงามของดอกซากุระแล้ว ที่ดอยอ่างขางยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นที่น่าสนใจอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นจุดชมวิวม่อนสน ที่ขึ้นชื่อเรื่องการชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า, ไร่ชาสองพัน ไร่ชาที่ปลูกเป็นขั้นบันไดตามแนวเขา, ตลาดชุมชมบ้านคุ้ม ตลาดขนาดใหญ่ที่รายล้อมไปด้วยต้นนางพญาเสือโคร่ง และแปลงสาธิตไม้ดอก สวนไม้ดอกนานาชนิดที่ปลูกสลับหมุนเวียนตลอดทั้งปี

เครดิตภาพ: https://www.108like.com/trips/image/sakura-ak-6_1457214409.jpg

“เล่นน้ำตก ชมภูสูง ดูหมอกสวย” กันที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่

เข้าสู่ไตรมาสสุดท้ายของปีแล้วผู้ที่นิยมเดินทางท่องเที่ยวอย่างเรา ๆ ช่วงปลายฝนต้นหนาวแบบนี้ แม้ฝนจะโปรยปรายลงมาบ้าง อากาศจะเย็นลงสักหน่อยก็ไม่ใช่อุปสรรคที่ไปเที่ยวแต่อย่างใด เราลองขึ้นเหนือไปรับไอเย็น “เล่นน้ำตก ชมภูสูง ดูหมอกสวย” กันที่ “นพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่” กันดีกว่าปักหมุดปลายทาง “อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์”  แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่จะถูกบันทึกไว้ในความทรงจำ

แหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่ควรไปเยี่ยมเยือน ได้แก่

 น้ำตกแม่ยะ เป็นน้ำตกขนาดใหญ่และสวยที่สุดติดอันดับต้น ๆ ของประเทศไทยเลยทีเดียว น้ำตกแม่ยะเกิดจากลำห้วยแม่ยะ มีประมาณ 30 ชั้น สูงกว่า 260 เมตร ในฤดูฝนปริมาณน้ำมากสายน้ำจะไหลลงหน้าผาเป็นม่านน้ำกว้างราว 100 เมตร เกิดละอองน้ำสีขาวกระจายเหมือนหมอกสวยงามเกินบรรยาย ส่วนในฤดูแล้งน้ำอาจจะน้อยแต่ก็ใสสะอาดจนสามารถมองเห็นพื้นทรายด้านล่าง บริเวณน้ำตกจะร่มรื่นไปด้วยป่าไม้เบญจพรรณนานาชนิดมองดูสบายตา นักท่องเที่ยวสามารถกางเต้นท์พักแรมบริเวณน้ำตกแม่ยะได้อีกด้วย

น้ำตกวชิรธาร เป็นน้ำตกขนาดใหญ่และสวยงามอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งเกิดจากน้ำจากลำห้วยแม่กลางอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 750 เมตร ตัวน้ำตกมีเพียง 1 ชั้น สูงราว 70 เมตร โดยมีจุดชมวิวโดยรอบเราจะมองเห็นรุ้งกินน้ำในระยะใกล้เพียงแค่เอื้อมมือจากละอองน้ำที่กระทบกับแสงอาทิตย์ ฝั่งตรงกันข้ามกับน้ำตกมีหน้าผาสูงชัน เรียกว่า “ผาม่อนแก้ว” หรือ “ผาแว่นแก้ว”

พระธาตุนภเมทนีดลและพระธาตุนภพลภูมิสิริ เป็นพระธาตุที่ทหารอากาศและประชาชนร่วมกันสร้างถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ เราจะเห็นวิวทิวทัศน์ของดอยอินทนนท์ได้อย่างชัดเจนในบริเวณนี้ องค์พระมหาธาตุประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและพระพุทธรูปบูชา ดังนั้น อย่าลืมกราบไหว้บูชาและระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของทั้ง 2 พระองค์เพื่อเป็นศิริมงคลต่อตนเองและครอบครัว

กิ่วแม่ปาน เป็นเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติระยะสั้นประมาณ 3 กิโลเมตร ซึ่งสามารถเดินได้ในวันเดียว ระหว่างทางมีจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้น และทะเลหมอกที่สวยงามของดอยอินทนนท์อีกแห่งหนึ่ง เส้นทางจะเดินผ่านป่าดิบเขาต้นไม้ถูกปกคลุมด้วยมอสสีเขียวและเฟิร์นหลากหลายชนิด ในฤดูฝนมีอากาศหนาวเย็นและถูกปกคลุมด้วยหมอกสีขาวทั่วทั้งผืนป่า เราจะเดินขึ้นเขาจนสุดปลายทางที่ทะลุออกไปยังทุ่งหญ้ากว้างของสันเขากิ่วแม่ปาน ถ้าโชคดีเราจะเห็นดอกสีแดงสดของ“ต้นกุหลาบพันปี” ที่ตัดกับผืนป่าสีเขียวดูสวยแปลกตาจนทำให้ลืมความเหนื่อยไปเลยทีเดียว

ยอดดอยอินทนนท์  เป็นยอดเขาสูงที่สุดในประเทศไทยที่ต้องไปเยือนสักครั้ง เราจะสัมผัสกับธรรมชาติที่แท้จริงของป่าดิบดึกดำบรรพ์ ที่ยอดดอยมีแอ่งน้ำขนาดใหญ่น้ำขังตลอดปี และมีหินก้อนใหญ่รูปทรงคล้ายกา เรียกว่า “อ่างกาหลวง” บริเวณนี้เป็นพื้นที่ศึกษาธรรมชาติด้วย ที่สำคัญอย่าลืมแวะสักการะสถูปอัฐิของเจ้าอินทวิชยานนท์ เจ้าผู้ครองเชียงใหม่องค์ที่ 7 และเป็นที่มาของชื่อ “ดอยอินทนนท์” ด้วย

สำหรับใครที่ชอบเที่ยวน้ำตก เดินเขาไปชมทะเลหมอก ก็นับว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีสำหรับครอบครัวและเพื่อนฝูงเพราะปลายปีมีวันหยุดยาวหลายวันลองวางแผนเดินทางกันให้ดีมีกิจกรรมสนุก ๆ มากมายรอเราอยู่ที่ปลายทาง “อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์”

ทองคำหลวงสีดำ ไข่ปลาสุดล้ำค่าจากจังหวัดเชียงใหม่

                ภัยแล้งและอุทกภัย ดูจะเป็นปัญหาที่หนักหนาสำหรับประเทศไทยที่เกิดขึ้นในทุก ๆ ปี แต่ชาวต่างชาติจำนวนมากก็ยังว่าเมืองไทยเป็นเมืองโชคดีที่ไม่หนาวจนแหล่งน้ำในธรรมชาติกลายเป็นน้ำแข็ง ซึ่งจะส่งผลต่อการเพาะปลูกพืชผลทางการเกษตร การเพาะเลี้ยงสัตว์ และการประมง ด้วยอากาศที่เหมาะสมแบบนี้ จึงทำให้คนในประเทศไทยมีอาหารไว้ล่อเลี้ยงได้อย่างไม่ขาดแคลนหรืออดอยาก อย่างคำกล่าวที่ว่า ประเทศไทยนั้นอุดมสมบูรณ์ในน้ำมีปลาในนามีข้าว แปลว่า ประเทศไทยสามารถอยู่ได้โดยไม่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีใด ๆ อยู่กันได้ด้วยตนเองมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ และในปัจจุบันนี้เองที่พบว่าประเทศไทยสามารถเพาะปลูกพืชต่างประเทศได้มากมาย หลากหลายขึ้นกว่าแค่พืชในท้องถิ่นเดิม อย่างเช่น องุ่น สตอเบอร์รี่ บล็อกโคลี พลับ สาลี กีวี ราสพ์เบอร์รี่ พีช อโวคาโด แครรอท ลูกฟลิกหรือมะเดื่อฝรั่ง ถือเป็นการสร้างรายได้เพิ่มให้แก่เกษตรกรชาวไทย นอกจากนั้นยังมีการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำทางประมง ที่ให้ผลผลิตเป็นทองคำสีดำที่มีค่า หรือที่เรียกกันว่า “คาเวียร์”

ไข่ปลาคาเวียร์แท้จริงแล้วไม่ได้มาจากปลาคาเวียร์ แต่มาจากปลาสเตอเจียน หรือ sturgeon เป็นปลาที่มีถิ่นกำเนิดที่แถบทะเลแคสเปียน เกิดในแหล่งน้ำจืด เมื่อโตพอก็จะว่ายออกสู่ทะเล และถึงฤดูวางไข่ก็จะกลับมาวางไข่ที่แหล่งน้ำจืด คล้ายกันกับปลาแซลมอล โดยปลาสเตอเจียนถูกนำมาเพาะเลี้ยงที่โครงการพระราชดำริบ้านเล็กในป่าใหญ่ ตำบลเมืองแหง อำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่ สร้างมูลค่าเพิ่มได้อย่างมหาศาล โดยไข่ปลาคาเวียร์ขนาดบรรจุ 100 กรัม จำหน่ายในราคา 5,000 บาท และกระปุกเล็กขนาด 25 กรัม ราคา 1,300 บาท แต่ยังนับว่าเป็นราคาที่ไม่แพงไปเลยสำหรับสินค้าคุณภาพในโครงการหลวงอีกหนึ่งรายการ หากเทียบกับการนำเข้า ซึ่งคุณภาพไม่แตกต่างกัน

โดยประชาชนทั่วไป หากสนใจเข้าชม สามารถเยี่ยมชมฟาร์มตัวอย่างได้ในวันและเวลาราชการ และทางโครงการยินดีจะเผยแพร่ความรู้แก่เกษตรกรรายอื่น ๆ ที่สนใจอีกด้วย สำหรับท่านได้ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติและรักการช้อปปิ้งสินค้าคุณภาพเป็นชีวิตจิตใจ จังหวัดเชียงใหม่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติในโครงการพระราชดำริอื่น ๆ อีกจำนวนมาก และมีสินค้าโครงการหลวงภายใต้แบรนด์ ศิลปกรจำหน่ายอีกมากมาย

หนึ่งสิ่งที่มักมาคู่กันกับการท่องเที่ยว คือการซื้อของฝากกลับไปให้คนที่บ้านหรือที่ทำงาน การได้เดินเลือกซื้อสินค้า และผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่มีคุณภาพและมีคุณค่ากับการมาเยือนสถานที่นั้น ๆ ย่อมเกิดผลประโยชน์กับทั้งตัวผู้ให้ ผู้รับ และผู้จำหน่าย สินค้าในโครงการหลวงหลายรายการเป็นสินค้าที่มีคุณภาพดี ทั้งยังช่วยอุดหนุนเกษตรกรให้มีกำลังใจในการผลิตสินค้าที่ดีต่อไป

 

อาบออนเซ็นไม่ต้องไปไกลถึงญี่ปุ่น ที่อำเภอฝาง เชียงใหม่บ้านเราก็มี

ไม่ใช่เพียงญี่ปุ่นเท่านั้นที่มีแหล่งอาบน้ำร้อนตามธรรมชาติ ในประเทศไทยเองก็มีแหล่งอาบน้ำพุร้อนหลายที่ด้วยกัน โดยวัฒนธรรมการอาบน้ำพุร้อน บ่อน้ำร้อนนั้นทางเหนือเรียกว่าโป่งน้ำร้อน การอาบออนเซ็นนั้นมีข้อดีหลายประการ อย่างเช่น ช่วยในเรื่องการหมุนเวียนระบบเลือด ผิวพรรณที่สดใสขึ้น เนื่องจากการอาบน้ำพุร้อนจากแหล่งธรรมชาติมีแร่ธาตุที่เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยในเรื่องสุขภาพ ชาวญี่ปุ่นจำนวนมากจึงนิยมการแช่น้ำพุร้อนเป็นประจำ ส่งผลให้อัตราเฉลี่ยอายุของชาวญี่ปุ่นมีอายุที่ยืนยาว อีกทั้งวัฒนธรรมชาวญี่ปุ่นยังนิยมอาบน้ำรวมกัน หรืออาบเป็นครอบครัว เพื่อสร้างสัมพันธ์อันดีระหว่างกันทั้งในกลุ่มเพื่อน และความอบอุ่นแบบครอบครัว อาจฟังดูขัดหูของชาวไทย เพราะประเทศไทยมักไม่นิยมอาบน้ำร่วมกัน อีกทั้งยังพบกับสภาพอากาศที่ร้อนปรอทแตก แต่ถ้าหากรู้จักอำเภอฝางจะรู้ดีว่าอำเภอดังกล่าวมีสภาพอากาศที่หนาวเกือบตลอดปี การอาบออนเซ็นจึงสามารถอาบได้เกือบตลอดทั้งปีที่อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่

การใช้งบจำนวนมาก ๆ ในการบินข้ามน้ำข้ามทะเลไปถึงญี่ปุ่นอาจดูเป็นเรื่องใหญ่สำหรับบางคน แถมยังต้องลางานหลาย ๆ วัน หากจะไปอาบออนเซ็นเพียงอย่างเดียวคงจะไม่คุ้มแน่ จึงอยากเชิญชวนให้มาเที่ยวในประเทศไทย ที่มีแหล่งอาบน้ำพุร้อนหลายที่ สำหรับโป่งน้ำร้อนอำเภอฝางนั้นเป็นแหล่งน้ำพุร้อนที่ตั้งอยู่ทามกลางธรรมชาติสีเขียวชอุ่ม ล้อมรอบด้วยต้นไม้จำนวนมาก ณ อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก โดยทางอุทยานเองได้มีบริการห้องอาบน้ำแร่ และห้องอบไอแร่ให้บริการในราคาไม่แพง และมีห้องอาบน้ำแยกเป็นส่วนตัว ภายหลังการอาบน้ำสามารถมาลวกไข่รับประทานได้ โดยทางอุทยานก็มีไข่จำหน่ายในราคาไม่แพง หรือจะเตรียมมาเองก็ได้

นอกจากนี้ยังได้ตื่นตาตื่นใจกับบ่อน้ำพุร้อนที่มีอุณหภูมิร้อนมากถึง 80-100  องศาเซลเซียส เหมาะกับการเก็บภาพบรรยากาศทั้งธรรมชาติสวย ๆ บนเส้นทางศึกษาธรรมชาติ การอาบน้ำร้อน และชมน้ำพุร้อนที่นี่สามารถทำได้ทุกฤดูไม่ใช่เพียงฤดูหนาวเท่านั้น

ความสุขของการไปเที่ยวโป่งน้ำพุร้อน หรือการไปอาบออนเซ็นแบบญี่ปุ่นนั้น คุณค่าของมันไม่ได้อยู่ที่สถานที่ที่ไป หากอยู่ที่การได้ไปกับคนที่เรารัก ครอบครัว กับเพื่อนสนิท ทำให้ได้ใช้เวลาร่วมกัน และยังเป็นการพาตัวเองออกไปพบปะผู้คนใหม่ ๆ สถานที่ใหม่ ๆ อย่างชาวบ้าน ชาวเขาในพื้นที่ ที่มักจะมีสินค้าพื้นเมืองมาขาย อีกทั้งอำเภอฝาง ยังมีเขตติดต่อกับแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกมาก นับว่าเป็นการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพทั้งทางกาย และทางใจ กระเป๋าตัง