ชวนชมสถาปัตยกรรมเด่น เที่ยวเมืองขนมหม้อแกง เพชรบุรี

เมื่อพูดถึงแหล่งท่องเที่ยวเชิงศิลปะที่ไม่ไกลกรุงเทพมากนัก จังหวัดเพชรบุรีก็นับเป็นตัวเลือกที่ดีไม่น้อย เพราะเป็นจังหวัดที่มีเอกลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมที่สวยงาม และมีที่มาน่าสนใจไม่น้อยเลยที่เดียว  เมื่อพูดถึงแหล่งท่องเที่ยวเมืองเพชรบุรี ผู้คนส่วนใหญ่จะนึกถึง อุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี หรือที่ผู้คนในจังหวัดเรียกกันติดปากว่า “เขาวัง” เป็นพระราชวังที่สร้างขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งตั้งอยู่ในตัวเมืองเพชรบุรี มีลักษณะสถาปัตยกรรมแบบยุโรปผสมผสานสถาปัตยกรรมไทยและจีน ซึ่งได้มีการจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับพระราชประวัติของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทั้งนี้ยังแสดงให้เห็นรอยประวัติศาสตร์สมัยนั้นผ่านสถาปัตยกรรมได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

สำหรับคนที่มาท่องเที่ยว ทางขึ้นเขาวังนั้น จะมีอยู่ 2 ทาง คือทางรถรางไฟฟ้า และทางเดินเท้า โดยสำหรับผู้สูงอายุขอแนะนำให้ขึ้นรถรางดีกว่า แต่ถ้าเป็นวัยรุ่นหน่อยเดินขึ้นเขาก็ไปไกลมากนั้น แถมยังได้ชมบรรยากาศรอบ ๆ วัง ก็จะได้โมเม้นต์ที่ดีไปอีกแบบ และจุดเด่นอีกอย่างของเขาวังก็คือ เจ้าลิงตัวน้อย ๆ ทั้งหลายที่วิ่งเล่นกันเต็มเขาวังนั้นเอง งานนี้สำหรับใครที่ชอบถือของหรือสะพายกระเป๋าก็ต้องระวังกันด้วยเพื่อความปลอดภัย สำหรับค่าเข้าชมอยู่ที่ คนไทย 60 บาท คนต่างชาติ 190 บาท ราคานี้รวมค่ารถรางแล้ว

หลังจากลงเขาวังมาแล้วเราก็ไปต่อกันที่ พระรามราชนิเวศน์ หรือที่คนเพชรบุรีเรียกกันว่า วังบ้านปืน พระราชวังหลังนี้สร้างขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และสร้างเสร็จสมบูรณ์ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งโดยออกแบบโดยช่างชาวเยอรมนี สถาปัตยกรรมแบบบาโรคผสมผสานแบบอาร์ต นูโว หรือที่เยอรมันเรียกว่า จุงเกนสติล โดยจะเน้นความทันสมัยโดยจะไม่มีลายปูนปั้นวิจิตรพิสดารมาก พระราชวังหลังนี้จะเน้นเรื่องความสูงของหน้าต่าง ประตู และเพดาน ซึ่งทำให้พระราชวังนั้นเต็มไปด้วยความวิจิตรงดงามและเต็มไปด้วยกลิ่นอายความคลาสสิกแบบตะวันตก โดยเริ่มตั้งแต่กระเบื้องสีน้ำตาล ที่นำเข้าจากยุโรปที่ซึ่งแบบเดียวกันกับที่ใช้สร้างพระราชวังของพระเจ้าวิลเฮิร์มไกเซอร์แห่งประเทศเยอรมัน

จุดเด่นที่พลาดไม่ได้ คือเหล่า คิวปิดตัวน้อยตามแถวบันไดกลางโถงพระราชวัง โดยแต่ละห้องนั้นจะมีการใช้สีที่แตกต่างกันอันเป็นรูปแบบเฉพาะของสถาปัตยกรรมแบบอาร์ต นูโว ทำให้พระราชวังแห่งนี้ดูสวยงามและน่าเที่ยวชมอย่างมาก ทั้งนี้ใครที่ชอบสถาปัตยกรรมแบบยุโรปไม่ควรพลาด โดยเข้าชมได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น ค่าเข้า คนไทย 20บาท คนต่างชาติ 50 บาท

สำหรับของฝากนั้นเมื่อมาเพชรบุรีแล้วที่ต้องซื้อกลับ นั้นก็คือ ขนมหม้อแกง และน้ำตาลสด โดยจัดว่าเป็นของฝากที่อร่อย และมีให้เลือกหลากหลายร้าน และยังสามารถซื้อผลงานของกลุ่มแม่บ้านทหารที่ร้านของฝากบริเวณวังบ้านปืนเป็นของติดไม้ติดมือกลับได้อีกด้วย

 

เที่ยวแม่สอด: เมืองชายแดนที่มีสถานที่ท่องเที่ยวทุกรูปแบบ

                 แม่สอดเป็นอำเภอที่มีชื่อเสียง อาจเพราะว่าชื่อไพเราะ ชื่อจำง่าย คนเลยเรียกติดปาก “แม่สอด แม่สาย แม่สะเรียง ฯลฯ” แม้หลายคนไม่เคยไป แต่น่าจะทุกคนในประเทศไทยที่รู้จักชื่ออำเภอนี้ ซึ่งมีเพียงแค่ทางเข้าอำเภอเท่านั้นที่เป็นอุปสรรค ที่จริงแล้วถนนก็ราบเรียบดี การจราจรไม่พลุกพล่านมาก แต่มีเนินขึ้นลงเยอะ ตามภูมิประเทศภูเขาสูง จึงอาจเป็นเหตุให้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ระหว่างทางมีอุทยานแห่งชาติถึง 2 แห่ง คือ อุทยานแห่งชาติลานสาง และอุทยานแห่งชาติตากสินมหาราช และก็ควรแวะตลาดมูเซอที่ขายกล้วยไม้ ของป่า กาแฟและอาหาร หากเวลามากพอ ซอยตรงข้ามตลาดมูเซอเป็นทางไปวัดถ้ำจุนโท ระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตร เป็นวัดมีถ้ำและสภาพพื้นที่ในวัดสวยงาม เป็นวัดที่หลวงปู่เจี๊ยะ จุนโท พระธุดงค์ชื่อดัง เคยมาจำพรรษาอยู่ ทั้งนี้ เมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางถึงกิโลเมตรที่ 68 ซึ่งเป็น “เนินพิศวง รถจอดนิ่งแต่ไหลขึ้นเนิน” ถ้าไม่มีรถคันอื่นวิ่ง อาจทดลองความพิศวงได้และก่อนเข้าอำเภอแม่สอด ก็มีศาลเจ้าพ่อพะวอ ซึ่งมีธรรมชาติร่มรื่น คนสัญจรนิยมแวะกราบขอพร และพักผ่อนหย่อนใจ

เมื่อเข้ามาในอำเภอแม่สอดที่เป็นพื้นที่ติดกับประเทศพม่า เป็นสังคมพหุวัฒนธรรม เพราะเมื่อเข้าไปในพื้นที่แล้วจะพบคนพม่าได้ทั่วไป และมีคนจีนที่พูดได้แต่ภาษาจีน มาอาศัยอยู่บ้างประปราย สภาพตัวอำเภอถือว่ามีความเจริญพอสมควร มีสิ่งอำนวยความสะดวกอยู่ในเกณฑ์ดี ถนนลาดยางทั่วถึง มีธรรมชาติภูเขา น้ำตก แม่น้ำ ห้างสรรพสินค้าขนาดเล็ก ขนาดใหญ่ ร้านอาหารอร่อย มีครบหมดทุกอย่าง แถมมีบ่อน้ำพุร้อนด้วย พลาดไม่ได้คือตลาดอัญมณี ของที่ระลึกยอดฮิตจากแหล่งสินค้านี้ก็คือ “หยกพม่า” และอย่าเพิ่งมองว่าอำเภอแม่สอดเป็นเมืองภูเขา แล้วจะขาดแคลนอาหารทะเล เพราะที่แม่สอด มีตลาดอาหารทะเลนำเข้าจากประเทศพม่า ใหม่สดแน่นอน และร้านอาหารจีนคุณภาพหลายร้าน เลือกร้านไหนก็ได้ อร่อยทุกร้าน นอกจากนี้วัดในแม่สอดก็สวยงามเป็นวัดในเชิงศิลปะพม่า หรือที่วัดมณีไพรสณฑ์ก็เป็นการผสานศิลป์ทั้งไทย พม่า และมอญไว้ด้วยกัน ถ้าต้องการวัดที่เน้นธรรมชาติ สถานที่เก่าแก่ ก็ลองแวะ พระธาตุหินกิ่วดอยดินจี่ มีหินที่ตั้งริมสุดขอบหน้าผา คนท้องถิ่นเรียกว่า “เจดีย์หินพระอินทร์แขวน” ตั้งแบบคล้ายจะร่วงลงไปข้างล่างอยู่อย่างนั้นมาเนิ่นนาน พร้อมทั้งมีพระเจดีย์สีทองตั้งอยู่บนหิน นอกจากนี้ในวัดก็มีเรือโบราณอายุ 200 ปี ให้นักท่องเที่ยวได้ชมอีกด้วย โดยทุกเดือนกุมภาพันธ์จะมีงานนมัสการพระธาตุหินกิ่วดอยดินจี่ เป็นประจำทุกปี

ทรัพยากรการท่องเที่ยวเมืองแม่สอดมีเยอะมาก แทบจะเล่าไม่หมด ทั้งธรรมชาติ วัฒนธรรม หรือสถานที่ท่องเที่ยวมนุษย์สร้าง เช่น ถ้าเที่ยวตลาดริมเมย ก็ข้ามไปเล่นคาสิโนที่ฝั่งพม่าได้สบาย เพราะคาสิโนอยู่ติดริมแม่น้ำเมยเช่นกัน นั่งเรือข้ามก็ถึง หรือช่วงน้ำลงจะเดินข้ามก็ยังได้ โดยรวมแล้ว แม่สอดเป็นเมืองที่เหมาะกับการพักผ่อนตากอากาศ ความเจริญเข้าถึง วิถีชีวิตดั้งเดิมไม่สูญหาย ธรรมชาติสมบูรณ์ ท่านใดเหนื่อยล้า ขอจงไปที่แม่สอด แล้วจะไม่ผิดหวัง