ถ้านึกถึงจังหวัดเลย ส่วนมากนักท่องเที่ยวจะชอบเห็นภาพเชียงคาน ภูเรือ หรือเดินขึ้นภูกระดึง และพวกเขาเหล่านั้นก็จะไปกระจุกตัวกันอยู่ใน 3 ที่นั้นเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งนักท่องเที่ยวจะนิยมมาในฤดูหนาว คือถ้าเลือกไปภูเรือ นักท่องเที่ยวก็จะเลยขึ้นไปกราบพระธาตุศรีสองรักษ์ที่ด่านซ้าย หรือถ้าเดินขึ้นภูกระดึง พอลงจากภูก็จะพากันกลับภูมิลำเนาในวันนั้นเสียเป็นส่วนใหญ่ หรือที่เชียงคานพอเริ่มอากาศหนาวหน่อย คนก็มากระจุกตัวอยู่ที่แนวบ้านไม้ริมฝั่งโขงกันแล้ว ถ้ามองอย่างนี้ ก็เหมือนจังหวัดเลยมีสถานที่ท่องเที่ยวอยู่เพียงไม่กี่ที่ แต่ที่จริงแล้ว จังหวัดเลยเป็นจังหวัดที่มีเอกลักษณ์ทั้งด้านธรรมชาติและวัฒนธรรม ในที่นี้หากมีสถานที่หนึ่งที่รวมเอาไว้ครบทั้ง 2 อย่าง สถานที่นั้น ก็คือ อำเภอนาแห้ว
ด่านซ้าย-นาแห้ว ในอดีตเป็นที่ซ่อนตัวของกลุ่มคอมมิวนิสต์ เพราะมีภูมิประเทศเข้าถึงยาก ลึกซับซ้อน แต่ในปัจจุบันจากความสงบทำให้เป็นสถานที่ที่ควรแก่การไปพักผ่อน โดยอำเภอนาแห้วอยู่ห่างจากตัวอำเภอเมืองเลย 109 กิโลเมตร หรือจากสามแยกพระธาตุศรีสองรักษ์ โดยขับไปตามถนนหมายเลข 2113 ประมาณ 30 กิโลเมตร ซึ่งเป็นถนนลาดยาง มีทัศนียภาพภูเขา มีเส้นทางคดเคี้ยวเป็นบางช่วง รวม ๆ แล้วนักท่องเที่ยวสามารถดื่มด่ำกับป่าไม้ที่รายล้อมอยู่ตลอดทางได้ แต่ควรระวังเพราะมีจุดถนนลื่นหลายแห่ง และโค้งหักศอกสำคัญ 1 จุดที่เป็นโค้งและทางลาดลง ถือว่าตื่นเต้นเร้าใจ เหมาะกับผู้ชื่นชอบความท้าทายอยู่พอสมควร
ในตัวอำเภอนาแห้วมีแหล่งธรรมชาติ ทั้งน้ำตก อุทยานแห่งชาติ และภูเขาสูงหลายลูก เช่น อุทยานแห่งชาติภูสวนทราย ที่ซึ่งผู้มาเยี่ยมเยือนจะได้สัมผัสบรรยากาศอันเงียบสงบ หลุดพ้นจากความเครียดในชีวิตประจำวัน ปลอดโปร่งเพราะอากาศบริสุทธิ์ และทางด้านวัฒนธรรมก็มีวัดเก่าแก่กว่า 400 ปี เช่น “วัดศรีโพธิ์ชัย” ที่มีพระประธานซึ่งสร้างพร้อมกันกับวัดอยู่ในโบสถ์เก่าที่มีภาพเขียนสีศิลปะล้านช้าง แสดงความเก่าแก่งดงาม และ”วัดโพธิ์ชัย (นาพึง)” ที่เป็นสถานที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปในตำนานคู่บ้านคู่เมือง นาแห้วอย่าง “องค์แสน” (ฝนแสนห่า อยู่ที่ใดที่นั่นจะไม่มีการแห้งแล้ง) ที่ทางวัดได้เอากรงมาล้อมองค์แสนเพื่อป้องกันการถูกลักขโมย
ในด้านธรรมชาติ ต้องถือว่ามีหลายแหล่งท่องเที่ยว ที่จะทำให้นักท่องเที่ยวอิ่มเอมกับความเป็นนาแห้ว แต่ถ้าจะยกตัวอย่าง ต้องชี้ไปที่ “น้ำตกตาดเหือง” เพราะเป็นน้ำตกที่มีลักษณะอันน่าประทับใจจากความสูง ความสวย ป่าล้อมรอบ มีมุมให้พักผ่อน หลีกหนีจากผู้คน อีกทั้งอยู่ติดกับป่ารอยต่อพรมแดนไทย-ลาว อีกทั้งมีวิถีชีวิตชุมชนท้องถิ่นชายแดนที่เงียบสงบ เพราะนักท่องเที่ยวในปัจจุบันก็ยังมีค่อนข้างน้อย จึงนับว่ามีทรัพยากรการท่องเที่ยวมีความสมบูรณ์
ทั้งหมดนี้อธิบายเป็นตัวหนังสือก็ไม่สามารถถ่ายทอดความประทับใจนั้นได้ แนะนำให้ทุกท่านไปสัมผัสเอง แล้วจะรู้ว่ารสชาตินาแห้วนั้นเป็นอย่างไร