ดิถีจันทร์สำคัญไฉนกับนักเดินทางที่ชอบเดินป่า

โลกของเราเป็นหนึ่งในดาวเคราะห์บริวารของระบบสุริยะ ซึ่งมีดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางและเป็นแหล่งกำเนิดแสงของโลก การหมุนรอบตัวเองของโลกทำให้เกิดกลางวันและกลางคืน โดยพื้นที่ด้านที่โลกหันหน้าเข้าหาดวงอาทิตย์จะเป็นเวลากลางวัน ในขณะที่ด้านที่ไม่ได้หันหน้าเข้าหาดวงอาทิตย์นั้นเป็นเวลากลางคืน และแน่นอนว่าสิ่งที่อยู่คู่กับโลกในตอนกลางคืนก็คือแสงจันทร์ ซึ่งเป็นดวงจันทร์บริวารหนึ่งเดียวของโลก

เป็นที่ทราบกันดีว่าแสงจันทร์ที่เราเห็นอยู่นั้นมิได้เป็นแสงสว่างในตัวเอง เนื่องจากดวงจันทร์ไม่มีแสงสว่างในตัวเอง แต่แสงนวล ๆ ที่เราเห็นนั้นเป็นเพียงแสงของดวงอาทิตย์ที่ส่องมาตกกระทบยังดวงจันทร์แล้วสะท้อนเข้ามาสู่ตาเรา ๆ ที่อยู่บนพื้นโลก และการที่ดวงจันทร์หมุนรอบตัวเองใช้ระยะเวลาเท่า ๆ กันกับระยะเวลาที่ใช้หมุนรอบโลก เกือบ ๆ หนึ่งเดือน ทำให้เราเห็นดวงจันทร์เพียงแค่ด้านเดียว และดวงจันทร์ที่เห็นกันในแต่ละค่ำคืนนั้นก็มีแสงสว่างที่ไม่เท่ากัน เรียกกันว่า “ดิถีจันทร์”

เป็นที่ทราบกันดีว่าโลกหมุนรอบตัวเองจากทิศตะวันตกไปทางทิศตะวันออก (ทวนเข็มนาฬิกา) ส่งผลให้ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์และดวงดาวนั้นขึ้นทางทิศตะวันออก และดิถีจันทร์นี้เองที่ถึงแม้ดูเป็นเรื่องที่ไม่น่าเกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว แต่สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบการถ่ายภาพแล้วล่ะก็ การมีความรู้ในเรื่องนี้อาจจะช่วยให้ได้ภาพที่สวยงามถูกใจตนเองเพิ่มมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะนักเดินทางที่ชอบแนวผจญภัยเดินป่า เนื่องจากหนึ่งในเสน่ห์ของการเดินเท้าเข้าป่านั้นก็คือค่ำคืนที่ท้องฟ้าเต็มไปด้วยทะเลดาว หรือค่ำคืนที่สว่างจ้าไปด้วยแสงจันทร์เต็มดวงบนฟากฟ้าอันเป็นรางวัลเล็ก ๆ น้อย ๆ ของนักเดินป่านั่นเอง

และแน่นอนว่าคืนที่ดาวจะเต็มฟ้าดีที่สุดนั้นย่อมเป็นค่ำคืนที่ท้องฟ้ามืดมิดไร้ซึ่งแสงสว่างนวลจากดวงจันทร์ คือ คืนเดือนดับช่วงเวลาแรม 15 ค่ำ ซึ่งในหนึ่งเดือนก็จะมีสักหนึ่งครั้ง เฉกเช่นเดียวกับคืนที่ดวงจันทร์เต็มดวงราว ๆ ขึ้นสิบห้าค่ำนั่นเอง นอกจากนี้แรงดึงดูดระหว่างดวงจันทร์กับโลกยังส่งผลให้เกิดสิ่งที่เรียกว่าน้ำขึ้น – น้ำลงในแต่ละวันอีกด้วย และอิทธิพลผลจากแรงดึงดูดของดวงอาทิตย์ต่อดวงจันทร์และโลกก็ส่งผลให้เกิดสิ่งที่เรียกว่าน้ำขึ้นสูงสุด (น้ำเกิด) และน้ำลงต่ำสุด (น้ำตาย) ซึ่งเกิดขึ้นสองครั้งในหนึ่งเดือนอีกด้วย

ความรู้เกี่ยวกับดิถีจันทร์เป็นความรู้พื้นฐานที่เป็นประโยชน์ ที่บางคนอาจหลงลืมไปบ้าง อย่างไรก็ตามดังสุภาษิตที่ว่า “รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม” เพราะนอกจากข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสถานที่ท่องเที่ยวที่เราสนใจ ต้องการจะไปเยือนจะเป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องศึกษาค้นคว้าแล้วนั้น ความรู้รอบตัวหรือความรู้จำเป็นทั่ว ๆ อื่น ๆ ไปก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน ด้วยเป็นสิ่งที่จะช่วยเพิ่มให้การท่องเที่ยวของเรานั้นน่าสนใจเพิ่มมากขึ้น และได้รับความพึงพอใจสูงสุด เพราะการท่องเที่ยวในแต่ละครั้งต้องใช้ทั้งเวลา ใช้ทั้งเงินทอง ดังนั้นจึงอยากให้เรา ๆ ท่าน ๆ ได้รับความสุขและสนุกให้ครบทุกด้านมากที่สุดนั่นเอง