ดิถีจันทร์สำคัญไฉนกับนักเดินทางที่ชอบเดินป่า

โลกของเราเป็นหนึ่งในดาวเคราะห์บริวารของระบบสุริยะ ซึ่งมีดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางและเป็นแหล่งกำเนิดแสงของโลก การหมุนรอบตัวเองของโลกทำให้เกิดกลางวันและกลางคืน โดยพื้นที่ด้านที่โลกหันหน้าเข้าหาดวงอาทิตย์จะเป็นเวลากลางวัน ในขณะที่ด้านที่ไม่ได้หันหน้าเข้าหาดวงอาทิตย์นั้นเป็นเวลากลางคืน และแน่นอนว่าสิ่งที่อยู่คู่กับโลกในตอนกลางคืนก็คือแสงจันทร์ ซึ่งเป็นดวงจันทร์บริวารหนึ่งเดียวของโลก

เป็นที่ทราบกันดีว่าแสงจันทร์ที่เราเห็นอยู่นั้นมิได้เป็นแสงสว่างในตัวเอง เนื่องจากดวงจันทร์ไม่มีแสงสว่างในตัวเอง แต่แสงนวล ๆ ที่เราเห็นนั้นเป็นเพียงแสงของดวงอาทิตย์ที่ส่องมาตกกระทบยังดวงจันทร์แล้วสะท้อนเข้ามาสู่ตาเรา ๆ ที่อยู่บนพื้นโลก และการที่ดวงจันทร์หมุนรอบตัวเองใช้ระยะเวลาเท่า ๆ กันกับระยะเวลาที่ใช้หมุนรอบโลก เกือบ ๆ หนึ่งเดือน ทำให้เราเห็นดวงจันทร์เพียงแค่ด้านเดียว และดวงจันทร์ที่เห็นกันในแต่ละค่ำคืนนั้นก็มีแสงสว่างที่ไม่เท่ากัน เรียกกันว่า “ดิถีจันทร์”

เป็นที่ทราบกันดีว่าโลกหมุนรอบตัวเองจากทิศตะวันตกไปทางทิศตะวันออก (ทวนเข็มนาฬิกา) ส่งผลให้ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์และดวงดาวนั้นขึ้นทางทิศตะวันออก และดิถีจันทร์นี้เองที่ถึงแม้ดูเป็นเรื่องที่ไม่น่าเกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว แต่สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบการถ่ายภาพแล้วล่ะก็ การมีความรู้ในเรื่องนี้อาจจะช่วยให้ได้ภาพที่สวยงามถูกใจตนเองเพิ่มมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะนักเดินทางที่ชอบแนวผจญภัยเดินป่า เนื่องจากหนึ่งในเสน่ห์ของการเดินเท้าเข้าป่านั้นก็คือค่ำคืนที่ท้องฟ้าเต็มไปด้วยทะเลดาว หรือค่ำคืนที่สว่างจ้าไปด้วยแสงจันทร์เต็มดวงบนฟากฟ้าอันเป็นรางวัลเล็ก ๆ น้อย ๆ ของนักเดินป่านั่นเอง

และแน่นอนว่าคืนที่ดาวจะเต็มฟ้าดีที่สุดนั้นย่อมเป็นค่ำคืนที่ท้องฟ้ามืดมิดไร้ซึ่งแสงสว่างนวลจากดวงจันทร์ คือ คืนเดือนดับช่วงเวลาแรม 15 ค่ำ ซึ่งในหนึ่งเดือนก็จะมีสักหนึ่งครั้ง เฉกเช่นเดียวกับคืนที่ดวงจันทร์เต็มดวงราว ๆ ขึ้นสิบห้าค่ำนั่นเอง นอกจากนี้แรงดึงดูดระหว่างดวงจันทร์กับโลกยังส่งผลให้เกิดสิ่งที่เรียกว่าน้ำขึ้น – น้ำลงในแต่ละวันอีกด้วย และอิทธิพลผลจากแรงดึงดูดของดวงอาทิตย์ต่อดวงจันทร์และโลกก็ส่งผลให้เกิดสิ่งที่เรียกว่าน้ำขึ้นสูงสุด (น้ำเกิด) และน้ำลงต่ำสุด (น้ำตาย) ซึ่งเกิดขึ้นสองครั้งในหนึ่งเดือนอีกด้วย

ความรู้เกี่ยวกับดิถีจันทร์เป็นความรู้พื้นฐานที่เป็นประโยชน์ ที่บางคนอาจหลงลืมไปบ้าง อย่างไรก็ตามดังสุภาษิตที่ว่า “รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม” เพราะนอกจากข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสถานที่ท่องเที่ยวที่เราสนใจ ต้องการจะไปเยือนจะเป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องศึกษาค้นคว้าแล้วนั้น ความรู้รอบตัวหรือความรู้จำเป็นทั่ว ๆ อื่น ๆ ไปก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน ด้วยเป็นสิ่งที่จะช่วยเพิ่มให้การท่องเที่ยวของเรานั้นน่าสนใจเพิ่มมากขึ้น และได้รับความพึงพอใจสูงสุด เพราะการท่องเที่ยวในแต่ละครั้งต้องใช้ทั้งเวลา ใช้ทั้งเงินทอง ดังนั้นจึงอยากให้เรา ๆ ท่าน ๆ ได้รับความสุขและสนุกให้ครบทุกด้านมากที่สุดนั่นเอง

รู้เขารู้เรา รู้พื้นที่วางแผนดี ท่องเที่ยวมีความสุข

ขึ้นชื่อว่านักเดินทางย่อมมีหลายประเภท และเป็นเรื่องที่ธรรมดาทั่วไปมาก ๆ สำหรับคนที่ชอบท่องเที่ยว ที่เมื่อมีเวลาว่างเมื่อใดก็ตาม ก็มักจะต้องค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ที่ตนเองสนใจ ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่สำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับนักเดินทางตัวจริง ที่อยากจะมีความรู้เกี่ยวกับสถานที่ที่ตนเองต้องการจะไปเยี่ยมเยือน ไม่เพียงแค่ประวัติของสถานที่ต่าง ๆ ที่น่าสนใจเท่านั้น แม้แต่สภาพสังคมของคนในชุมชนโดยรอบสถานที่นั้น ๆ ก็เป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน และยิ่งไปกว่านั้นเส้นทางในพื้นที่ยิ่งเป็นสิ่งที่ควรศึกษาให้ดีก่อนจะถึงวันเดินทางจริงเป็นอย่างมาก เพราะอย่างที่เขาบอกกันว่า “รู้เขารู้เรา เที่ยวกี่ครั้งก็สนุกได้ไม่รู้เบื่อ”

และแน่นอนว่าแอปพลิเคชันที่จะมาเป็นตัวช่วยให้เราท่องเที่ยวได้อย่างราบรื่นมากที่สุดแอปหนึ่งก็คงหนีไม่พ้น Google Map ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นทุกอย่างให้เธอแล้ว ไม่ว่าจะค้นหาสถานที่ท่องเที่ยว ที่พัก หรือร้านอาหาร ต่างก็มีให้เลือกมากมาย และสิ่งที่ดีที่สุดของเทคโนโลยีในยุคสมัยนี้ก็คือ แผนที่พวกนี้นอกจากจะเรียกดูได้แบบออนไลน์แล้วก็ยังสามารถใช้บริการได้แบบออฟไลน์อีกด้วย เพราะคงปฏิเสธไม่ได้ว่าในบางสถานที่ท่องเที่ยวนั้น บางทีดูเหมือนสัญญาณโทรศัพท์ก็ดูจะไม่ค่อยเป็นใจซักเท่าไหร่ หรือบางทีแบตเตอรี่ของเจ้าอุปกรณ์คู่ใจก็กลับมาหมดลงกลางคันเสียได้ หรือบางครั้งอาจต้องยอมรับว่าถึงแม้สถานที่แนะนำบนแผนที่จะมากซักเพียงใด แต่บางทีก็อาจจะไม่ครอบคลุมกับบางสถานที่ที่เราอยากไปแต่ยังไม่ได้ถูกกำหนดลงบนแผนที่ก็เป็นได้

ตัวช่วยที่จะมาแก้ปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้ให้หมดไป คือ โปรแกรม “Google Earth Pro” ที่ทางบริษัท Google เปิดให้ดาวน์โหลดมาใช้กันอย่างฟรี ๆ นั่นเอง ซึ่งผู้อ่านบางท่านอาจจะยังไม่ทราบว่าเราสามารถที่จะปักหมุดสถานที่ต่าง ๆ ที่เราสนใจลงใน Google Earth Pro แล้วนำไปเชื่อมต่อกับ Google Map โดยไฟล์ที่เรียกว่า KML (Keyhole Markup Language) ซึ่งเป็นนามสกุลไฟล์ที่มีไว้ใช้สำหรับโปรแกรมเชิงพื้นที่นั่นเอง นอกจากการปักหมุดในสถานที่ต่าง ๆ แล้วนั้น ยังสามารถใช้ฟังก์ชันที่เรียกว่า Street View ศึกษาเส้นทางหรือแม้แต่ดูสถานที่ต่าง ๆ ที่เราต้องการจะไป เช่น แลนด์มาร์คของสถานที่
นั้น ๆ หรือแม้แต่การวัดระยะทางเส้นทางจากสถานที่หนึ่งไปยังอีกสถานที่หนึ่งก็สามารถทำได้อย่างง่ายดาย เรียกได้ว่าเราสามารถวางแผนตารางการเดินทางของเราล่วงหน้าได้อย่างละเอียดถี่ถ้วนเสมือนว่าเคยไปสถานที่นั้น ๆ มาก่อนแล้วก็ว่าได้ และนอกจากจะทำเป็นแผนที่ออนไลน์ได้ ในกรณีฉุกเฉินอาจพิมพ์ออกมาเป็นกระดาษด้วยฟังก์ชันการทำแผนที่ที่ทางโปรแกรมฯ จัดเตรียมไว้ให้ก็ได้

เรียกได้ว่าหากรู้จักการใช้ประโยชน์ของเทคโนโลยีที่มีให้ใช้สอยในปัจจุบันได้อย่างถูกต้องและคุ้มค่าแล้วนั้น การเดินทางของเราก็คงจะผ่านไปได้ด้วยความสวัสดิภาพ และเชื่อว่าเราและเพื่อน ๆ จะได้รับความทรงจำที่ดีดีจากตารางการท่องเที่ยวที่จัดเตรียมไว้อย่างดีอีกด้วย เป็นดั่งคำที่เขาว่ากันว่า “วางแผนดีมีชัยไปกว่าครึ่ง” วางแผนดีคนที่เรารักที่เราพาเขาไปเที่ยวด้วยก็คงจะมีความสุข และประทับใจในความเตรียมพร้อมของเราไม่รู้ลืมอย่างแน่นอน

ท่องเที่ยวเนิบ ๆ สไตล์นักเดินทางสายชิลล์กับสถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องห้ามพลาดในตัวเมืองน่าน

จังหวัดน่าน เป็นจังหวัดเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศไทย เป็นหนึ่งในจังหวัดที่เป็นประตูไปสู่ประเทศเพื่อนบ้านที่ได้ชื่อว่าเป็นบ้านพี่เมืองน้องของไทยอย่างสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มนต์เสน่ห์ของจังหวัดนี้ คือ ไม่ใช่ใครก็ได้ที่จะหลงผ่านเข้าไปเยือนยังสถานที่แห่งนี้ แต่ต้องเป็นคนที่ต้องตั้งใจไปจริง ๆ เนื่องจากเส้นทางเข้าสู่จังหวัดนี้เป็นเส้นทางที่ไม่ผ่านจังหวัดใด ๆ เลยนั่นเอง ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องห้ามพลาดในตัวเมืองน่านที่อยากแนะนำประกอบไปด้วยสถานที่ดังต่อไปนี้

วัดภูมินทร์

นักท่องเที่ยวน้อยคนนักที่เมื่อได้มีโอกาสมาเยือนเมืองน่าน แล้วจะไม่แวะมาสักการะพระพุทธรูป ณ วัดภูมินทร์แห่งนี้ เนื่องด้วยวัดแห่งนี้มีจิตกรรมฝาผนังอันมีชื่อเสียงโด่งดังประจำจังหวัดน่านอย่าง “ปู่ม่านย่าม่าน” เรื่องราวของคู่รักหญิงชายที่กำลังทำท่าทางกระซิบกัน จนได้รับการเรียกขานกันอีกหนึ่งชื่อว่าภาพ “กระซิบรักบันลือโลก” ซึ่งเป็นผลงานมีชื่อของ
จิตกรฝีมือประณีตเชื้อสายไทลื้ออย่าง “หนานบัวผิน” อีกทั้งวัดแห่งนี้ยังมีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นเป็นอย่างมาก คือ
“พระอุโบสถจตุรมุข” ซึ่งภายในประดิษฐานองค์พระประธานจตุรทิศ 4 องค์ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยตั้งหันหน้าออกประตูทั้ง 4 ทิศ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ควรค่าแก่การมาเยี่ยมชมด้วยกันทั้งสิ้น

วัดพระบรมธาตุแช่แห้ง

เป็นที่ทราบกันดีว่าวัดพระบรมธาตุแช่แห้งเป็นพระอารามหลวง ซึ่งเป็นพระธาตุที่คนเกิดปีเถาะจะต้องหาโอกาสมานมัสการกันให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิต เพราะสำหรับคนที่มีความศรัทธาที่แรงกล้าแล้วนั้น การได้สักการะพระธาตุประจำปีเกิดเป็นอะไรที่เชื่อกันว่าน่าจะได้อานิสงส์ผลบุญเป็นอย่างมาก ซึ่งสถานที่ตั้งของพระธาตุแห่งนี้ก็อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากตัวเมืองน่านมากนัก เพียงแค่ใช้เส้นทางถนนทางหลวงหมายเลข 1168 มุ่งไปทางทิศตะวันออกโดยข้ามแม่น้ำน่านไปเป็นระยะทางกว่า 3 กิโลเมตร จากวัดภูมินทร์ ทั้งนี้หากนักท่องเที่ยวท่านใดที่ถึงแม้จะไม่ได้เกิดปีเถาะแต่ก็สามารถมาสักการะ มาเยี่ยมชมสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ได้ ด้วยเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดน่านมาอย่างช้านาน

วัดพระธาตุเขาน้อย

ณ บริเวณพื้นที่ทางตะวันตกของตัวเมืองน่าน เป็นสถานที่ตั้งของวัดพระธาตุเขาน้อย ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่ของดอยเขาน้อย ในเขตพื้นที่ตำบลดู่ใต้ อำเภอเมือง จังหวัดน่าน จุดเด่นของวัดแห่งนี้ คือ จุดชมวิวทิวทัศน์ที่สามารถมองเห็นตัวเมืองน่านได้อย่างสุดลูกหูลูกตา และที่บริเวณนี้ยังมีพระพุทธรูปปางประธานพรซึ่งถูกสร้างขึ้นในโอกาสมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ เมื่อปี พ.ศ.2542 โดยมีชื่อว่าพระพุทธมหาอุดมมงคลนันทบุรีศรีน่าน ซึ่งถูกประดิษฐานอยู่บนฐานดอกบัวที่สูงถึง 9 เมตร หันหน้าออกสู่ทางด้านทิศตะวันออกซึ่งเป็นที่ตั้งของตัวเมืองน่านและแม่น้ำน่าน

อย่างไรก็ดีนอกจากสถานที่ต่าง ๆ ที่ได้กล่าวมาแล้วนั้น ตัวเมืองน่านยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นพิพิธภัณฑสถาน วัดวาอาราม หรือร้านอาหาร ตลอดจนร้านขนมมากมายรอคอยให้นักท่องเที่ยวได้มาเยี่ยม มาชิมมาชม และ ได้มีโอกาสมาใช้ชีวิตการท่องเที่ยวแบบเนิบ ๆ กับที่เมืองน่านแห่งนี้ดูสักครั้ง ไม่แน่ว่าจังหวัดที่คุณไม่เคยตั้งใจมาอาจเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สงบน่าหลงใหลจนคุณลืมไม่ลงเลยก็เป็นได้

“ดอยเสมอดาว” พาใจเราไปอยู่กับเขา

หากใครเคยได้มีโอกาสไปเยือนยังจังหวัดเล็ก ๆ ทางภาคเหนือที่ผู้คนอาศัยอยู่กันอย่างสงบสุขนามว่าจังหวัดน่าน คงจะมีบ้างที่จะต้องมีคนรู้จักกับอุทยานแห่งชาติศรีน่าน ซึ่งมีพื้นที่ครอบคลุมพื้นที่ถึง 3 อำเภอของจังหวัดน่าน ได้แก่ อำเภอนาน้อย อำเภอนาหมื่น และอำเภอเวียงสา ซึ่ง “ดอยเสมอดาว” นั้นก็เป็นหนึ่งในดอยที่อยู่ในเขตพื้นที่ของเขตอุทยานแห่งชาติศรีน่าน ซึ่งตั้งอยู่ ณ ตำบลศรีสะเกษ อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน เป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวหลายต่อหลายคนต่างอยากมีโอกาสได้ไปสัมผัสกับอากาศดี ๆ กับบรรยากาศของขุนเขาและไอหมอกกันสักครั้งหนึ่ง ด้วยเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวสามารถไปเยือนได้อย่างสะดวกง่ายดาย เป็นที่หมายปลายทางที่สามารถนำรถไปส่งได้แทบจะถึงบริเวณจุดชมวิว หรืออย่างน้อยก็ออกแรงเดินเพียงไม่นานเท่าไหร่เมื่อเทียบกับสถานที่ท่องเที่ยวแนวเดียวกันอื่น ๆ

ณ ที่แห่งนี้เหมาะอย่างยิ่งกับนักท่องเที่ยวที่เดินทางกันมาเป็นครอบครัว ไม่ว่าสมาชิกของครอบครัวนั้น ๆ จะประกอบด้วยเด็ก วัยรุ่น วัยทำงาน หรือกระทั่งผู้สูงอายุ เพราะอย่างที่กล่าวไปแล้วว่าสถานที่แห่งนี้นั้นสามารถเดินทางไปมาได้อย่างสะดวก และที่สำคัญมากไปกว่านั้นบรรยากาศด้านบนดอยก็เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจเป็นอย่างยิ่ง เหตุเพราะนักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปสัมผัสลมหนาว หรืออากาศเย็นด้านบนได้เกือบตลอดทั้งปี เป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นได้ทั้งทะเลหมอกและแสงอาทิตย์แรกยามเช้า ตลอดจนแสงสุดท้ายคราที่ตะวันตกดิน แม้แต่ในยามค่ำคืนเองในวันที่ท้องฟ้าเป็นใจ ก็มีทะเลดาวให้ได้ชมกันอย่างเต็มอิ่ม เรียกได้ว่านอกจากจะเป็นดอยที่เข้าถึงง่ายแล้ว สิ่งที่ได้รับกลับไปนั้นครบทุกบรรยากาศไม่แพ้ยอดเขาที่ต้องบากบั่นไปเป็นหลายกิโลเมตรเลยทีเดียว

สำหรับการเดินทางไปยังสถานที่แห่งนี้ ที่บอกกันว่าเดินทางไปได้ง่าย ๆ ก็เพราะสามารถเดินทางไปถึงด้วยรถส่วนตัว โดยขับรถออกจากตัวเมืองนาน้อย ไปตามถนนทางหลวงหมายเลข 1083 หรือที่รู้จักกันในชื่อถนนสายนาน้อย – ปางไฮ แต่ผู้ที่ทำหน้าที่ขับรถควรจะต้องเพิ่มความระมัดระวังในการบังคับยานพาหนะให้ดี เนื่องจากถนนค่อนข้างคดเคี้ยวตลอดเส้นทาง หรือหากจะใช้บริการรถโดยสารสาธารณะก็ทำได้โดยง่าย เพราะหากออกเดินทางจากกรุงเทพด้วยรถทัวร์สายกรุงเทพ – น่าน แล้วก็เพียงแค่ลงรถที่อำเภอเวียงสา จากนั้นให้ต่อเที่ยวรถประจำทางสายเวียงสา – นาน้อย – นาหมื่น เพื่อลงตรงบริเวณสามแยกบ้านใหม่ จากนั้นเพียงแค่เหมารถสองแถวที่มีไว้บริการบริเวณนั้นก็สามารถไปถึงยังทางเข้าอุทยานฯ ได้ไม่ยาก

ด้วยข้อดีต่าง ๆ ที่กล่าวมาแล้วนั้น ทำให้ดอยเสมอดาวเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่น่าสนใจ ที่นักท่องเที่ยวทั้งหลายไม่ควรพลาดที่จะไปสัมผัสกับบรรยากาศดังกล่าวด้วยตัวเองกันสักครั้ง พาใจเราไปพบกับเขา ไปอยู่กับเขา เพื่อชาร์จพลังกายพลังใจให้ตนเองได้กลับมามีแรงสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ ให้กับโลกใบนี้กันต่อไป

เที่ยวชายหาดชิว ๆ ชมวิวเพลิน ๆ ที่พัทยากันดีกว่า

พัทยายังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับต้น ๆ ที่นักท่องเที่ยวที่ร่างกายต้องการทะเลเลือกที่จะไป เพราะนอกจากจะมีทะเลให้นั่งชิว ๆ และพักผ่อนตามอัธยาศัยแล้ว ยังมีสถานบันเทิงมากมาย ดังนั้นนอกจากพัทยาจะเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทยแล้ว นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางมาเที่ยวที่กรุงเทพฯ และอยากไปเที่ยวชายหาดเมืองไทยที่มีชื่อเสียงระดับโลกก็มักจะเลือกมาเยือนพัทยาเช่นกัน

แต่เดิมพัทยาเป็นเมืองชาวประมงเล็ก ๆ ในอำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ชายหาดของพัทยาจะเป็นชายหาดรูปทรงครึ่งวงกลม เว้าเข้าบนบก ในอดีตสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ได้เคยเดินทางมาพักทัพที่พัทยา นั้นเป็นที่มาของสัญลักษณ์ประจำเมืองพัทยา ที่เป็นรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงม้าด้านหน้าชายหาดนั้นเอง ต่อมาเนื่องจากพัทยามีความสวยงามและเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวอย่างรวดเร็ว ทำให้เมืองรุดหน้าพัฒนาไปอย่างไม่หยุดยั้ง ในปี พ.ศ. 2521 พัทยาได้ถูกเปลี่ยนการปกครองของสุขาภิบาลนาเกลือไปเป็นการปกครองรูปแบบท้องถิ่นพิเศษ มีฐานะเทียบเท่าเทศบาลนคร

โดยพัทยานั้นแบ่งออกเป็นพัทยาเหนือ พัทยากลางและพัทยาใต้ โดยแต่ละแห่งก็จะมีเอกลักษณ์ทีแตกต่างกันไปเล็กน้อย

พัทยาเหนือ เป็นย่านชุมชนเก่า มีอาคารบ้านเรือนแบบโบราณและร้านอาหารอร่อย ๆ หลายแห่ง นอกจากนั้นยังมีทิฟฟานี่โชว์อีกด้วย

พัทยากลาง เป็นจุดที่รวมแหล่งชอปปิ้งและห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ เช่น เซ็นทรัลเฟสติวัล ที่เป็นห้างสรรพสินค้าริมหาดที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน และสถานบันเทิงแบบอะโกโก้และร้านเบียร์มากมาย รวมถึงพิพิธภัณฑ์ชื่อดังระดับโลกอย่าง พิพิธภัณฑ์ริปลีส์

พัทยาใต้ เป็นที่ตั้งของถนนคนเดินและสถานบันเทิงมากมาย หรือหากจะข้ามไปยังเกาะอื่น ๆ ก็สามารถใช้บริการท่าเรือที่แหลมบาลีฮายได้

พัทยาเต็มไปด้วยร้านอาหารทะเลมากมาย ให้นักท่องเที่ยวได้ไปลองรับประทานไป ชมวิวไป โดยร้านอาหารติดทะเลของพัทยานั้นมีมากมายหลายร้านและหลากหลายรูปแบบแตกต่างกันไป โดยร้านอาหารที่เป็นที่นิยมปัจจุบันจะเป็นร้านน่ารัก ๆ สไตล์คาเฟ่ริมทะเล ที่นอกจากจะบริการอาหารแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถถ่ายรูปเล่นในบริเวณร้านได้อีกด้วย

พัทยานั้นขึ้นชื่อเรื่องโรงแรมที่พักมากมาย ทั้งโรงแรมหรูไปจนถึงโฮสเทล ดังนั้นจึงมีนักท่องเที่ยวมากมายหลายแบบที่เดินทางมาพักผ่อนและหาความสนุกกับเมืองท่องเที่ยวชายทะเลแห่งนี้ ทางหน่วยงานรัฐบาลได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของเมืองพัทยา จึงได้มีการจัดระเบียบรูปแบบของร่มเตียงในพัทยาให้มีความเป็นระเบียบ ราคาสมเหตุสมผล ไม่เอาเปรียบนักท่องเที่ยวในช่วงปลายปี พ.ศ. 2560 ซึ่งแน่นอนว่าจะช่วยให้พัทยาเป็นเมืองที่น่าเที่ยวมากขึ้น

นอกจากจะมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายน่าสนใจแล้ว พัทยายังเป็นเมืองท่าที่จะข้ามไปยังเกาะล้าน สถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งที่มีความสวยงามไม่แพ้หาดพัทยา โดยใช้เวลาเดินทางจากพัทยาจากแหลมบาลีฮายในพัทยาใต้ไปยังเกาะล้านเพียงแค่ประมาณ 45 นาทีเท่านั้น

แน่นอนว่าพัทยาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความเจริญ ดังนั้นจึงอาจจะไม่เหมาะกับผู้ที่แสวงหาการพักผ่อนริมทะเลที่สงบ แต่นักท่องเที่ยวชื่นชอบความมีชีวิตชีวาและความบันเทิงยามค่ำคืน ไม่น่าเบื่อ พัทยาก็ตอบโจทย์ได้ดีทีเดียว

เหมืองปิล็อกแห่งบ้านอีต่อง ดินแดนกลางหุบเขา เที่ยวได้แม้หน้าฝน

เหมืองปิล็อกและหมู่บ้านอีต่อง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ติดกับชายแดนไทย-พม่า ในเขตอำเภอทองผาภูมิจังหวัดกาญจนบุรี ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ อีกทั้งยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวสุดยังฮิตสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวแนวธรรมชาติ เยี่ยมชมหมู่บ้านที่ยังคงความเรียบง่ายและมีเอกลักษณ์แบบพื้นเมือง ที่ผู้คนเคยประกอบอาชีพทำเหมืองแร่มาแต่โบราณ อีกทั้งยังเป็นหมู่บ้านที่อยู่ในสายหมอกและเหมาะกับการมาเที่ยวในหน้าฝนเป็นที่สุด

จากเมืองที่อดีตเคยเจริญรุ่งเรืองจากการทำเหมืองแร่ ปัจจุบันกลายเป็นเมืองท่องเที่ยวแบบโฮมสเตย์ สำหรับสัมผัสอากาศบริสุทธิ์และพักผ่อนหย่อนใจ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความเรียบง่ายและเงียบสงบจริง ๆ เหมือนกับการ Shut Down สมอง หรือทำ Social Media Detox ขับสารพิษที่เกิดขึ้นจากการเสพสื่อมากเกินไปที่อาจจะทำให้จิตใจหดหู่ได้เป็นอย่างดีทีเดียว (เพราะที่บริเวณหมู่บ้านนี้เค้าแทบไม่มีสัญญาณโทรศัพท์เลย แต่สัญญาณ Wi-Fi ก็พอมีอยู่ ไม่ต้องเป็นห่วง)

การเดินทางมาที่เหมืองปิล็อกและหมู่บ้านอีต่อง วิธีแรกคือการขับรถส่วนตัว หรือโดยสารรถ บขส. ไปลงที่อำเภอทองผาภูมิ และต่อด้วยรถประจำทางสีเหลืองที่อำเภอทองผาภูมิ เพื่อไปลงที่หมู่บ้านอีต่อง โดยรถโดยสารนี้จะมี 3 รอบใน 1 วัน คือ 10.30 น./ 11.30 น. และ 12.30 น. โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง ก็จะได้เจอกับเมืองเล็ก ๆ อันแสนอบอุ่นในสายหมอกแล้ว

หมู่บ้านอีต่อง มีที่พักมากมายให้นักท่องเที่ยวได้เลือกพักตามอัธยาศัย แต่จุดที่นักท่องเที่ยวนิยมเข้าไปพักมากที่สุดเห็นจะเป็นบริเวณริมบ่อน้ำตรงกลางหมู่บ้าน เพราะมีบรรยากาศที่ดี วิวสวย แค่เดินออกมาชมวิวก็ฟิน คุ้มค่ากับการเดินทางมาแล้ว

บริเวณเหมืองปิล็อกก็เป็นอีกจุดแลนด์มาร์คหนึ่งที่นักท่องเที่ยวเข้าไปถ่ายรูปกับบรรยากาศเหมืองเก่า ที่ในอดีตเคยมีคนงานกว่า 600 คน แต่หลังจากมีการตัดราคาแร่จากจีน เหมืองปิล็อกก็ได้รับผลกระทบอย่างหนักจนต้องปิดตัวลง ซึ่งทามหมู่บ้านยังคงอนุรักษ์ความเป็นเหมืองเอาไว้อย่างสมบูรณ์ ยังคงมีอุปกรณ์และยานพหนะที่ใช้ทำเหมืองในอดีตค่อนข้างครบถ้วน เดินถัดเข้าไปอีกหน่อยก็จะเจอกับน้ำตก จ๊อกกระดิ่น น้ำตกธรรมชาติท่ามกลางสายหมอก จนดูเหมือนหลุดเข้าไปในดินแดนแห่งเทพนิยาย

นอกเหนือจากสถานที่ท่องเที่ยวให้นักท่องเที่ยวได้เดินเล่น ชมวิวชิว ๆ แล้ว อาหารของหมู่บ้านอีต่องก็เป็นอีกจุดขายหนึ่ง เพราะว่าที่นี้เค้ามีอาหารทะเลสด ๆ จากทะเลอันดามัน ที่นำเข้าจากฝั่งพม่า ราคาสมเหตุสมผล เปิดให้บริการอยู่ตามจุดต่าง ๆ ของหมู่บ้าน เพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัวหิวแน่นอน

หลายครั้งที่นักท่องเที่ยวอยากจะเดินทางไปในที่ไกล ๆ และหลีกหนีความวุ่นวายที่เจอในชีวิตประจำวันเพื่อพักสมอง แต่อาจจะไม่สะดวกหรือมีเวลาไม่พอที่จะไปในที่ไกล ๆ ก็สามารถเลือกเดินทางมาที่ หมู่บ้านอีต่อง ได้ เพราะนอกจากจะได้พบกับบรรยากาศอันแสนสงบให้สบายใจ โอโซนสบาย ๆ แล้ว นักท่องเที่ยวยังได้สัมผัสวิถีสโลไลฟ์ ตามสไตล์ชาวบ้านแท้ ๆ อีกด้วย

วังน้ำเขียว ที่พักตากอากาศชั้นเลิศที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ

ใกล้ ๆ กรุงเทพฯ เมืองหลวงของประเทศไทยมีสถานที่พักตากอากาศดี ๆ มากมาย เหมาะกับผู้ที่ต้องการพักผ่อนหย่อนใจจากความตึงเครียดที่เกิดจากการทำงานเป็นระยะเวลาสั้น ๆ ขับรถไปประมาณราว ๆ 3 ชั่วโมงกว่า ๆ เท่านั้น ก็จะเจอกับธรรมชาติสีเขียว และอากาศสดชื่น ที่วังน้ำเขียว ซึ่งเป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดนครราชสีมา

โดยวังน้ำเขียวนั้นมีชื่อ่เสียงจากการติดสถานที่ 1 ใน 7 ของโลกที่มีระดับโอโซนดีที่ที่สุด จนได้รับฉายาว่า ‘Switzerland แดนอีสาน’ ชื่อวังน้ำเขียว นั้นมาจากการที่พื้นที่บริเวณนี้มีวังน้ำที่เป็นสีเขียวมรกต จากความสมบูรณ์ทางธรรมชาติ อีกทั้งยังใสจนกระทั่งสามารถสะท้อนสีเขียวสดใสจากต้นไม้ได้ ด้วยความที่วังน้ำเขียวมีภูมิประเทศส่วนมากอยู่บนภูเขาสูง อากาศเย็นสบาย ป่าไม้อุดมสมบูรณ์ เป็นที่อยู่ของสัตว์ป่าหายากมากมาย มีจุดชมวิวมีชื่อเสียงประจำอำเภออย่าง ผาเก็บตะวัน และอ่างเก็บน้ำบ้านสันกำแพง อีกทั้งยังมีน้ำตกมีชื่อมากมาย เช่น น้ำตกคลองดินดำและน้ำตกขุนโจร เป็นสถานที่ที่เปิดรับนักท่องเที่ยวได้เข้ามาสัมผัสความงดงามของธรรมชาติที่นี้อีกด้วย

นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติแล้ว ผู้ที่ชื่นชอบความงดงามของดอกไม้น่าจะชอบมาเที่ยวที่วังน้ำเขียว เพราะที่นี้เต็มไปด้วยสวนดอกไม้มากมายที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมดอกไม้และถ่ายรูปกับสถานที่สวย ๆ เหมือนอยู่เมืองนอกก็ไม่ปาน ไม่ว่าจะเป็น ฟ้าประทาน ฟลอร่า พาร์ค The Little Garden และ The Little Garden วังน้ำเขียว เป็นต้น

นอกจากที่พักอันแสนสวยงาม เหมาะกับผู้ที่ต้องเข้ามาพักผ่อน ที่วังน้ำเขียวนั้นยังมีอากาศที่เย็นและสดชื่น เหมาะกับการเพาะปลูกผลไม้และดอกไม้มากมายเป็นอย่างมาก วังน้ำเขียวจึงกลายเป็นสถานที่ที่สร้างอาชีพมากมายให้กับคนในท้องที่ วังน้ำเขียวยังเต็มไปด้วยฟาร์มและสวนผลไม้มากมายที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปศึกษาและชมการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นที่ เขาแผงม้า ซึ่งเป็นโครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติฯ ซึ่งมีความสำคัญเป็นแหล่งอนุรักษ์ฝูงกระทิงฝูงสุดท้ายของประเทศไทย วิลเลจฟาร์ม แอนด์ ไวน์เนอรี่ สวนปลูกไวน์พร้อมบริการร้านอาหารและจัดจำหน่ายไวน์ชั้นดีที่เป็นผลิตภัณฑ์ของสวนไวน์อีกด้วย

สถานที่ท่องเที่ยวที่มีมากมายหลายสไตล์ในวังน้ำเขียวนั้นตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการไปเที่ยวพักผ่อนในระยะสั้น โดยเหมาะกับนักท่องเที่ยวทุกรูปแบบและหลากหลายช่วงวัยด้วยกัน เช่น ครอบครัวที่ต้องการหาเวลาว่างอยู่ด้วยกัน ต้องการหากิจกรรมสนุก ๆ ทำในวันหยุดปลายสัปดาห์ ไม่ว่าจะเป็นหาร้านอาหารอร่อย ๆ ทาน เดินชมสวนดอกไม้ หรือนอนพักผ่อนในรีสอร์ทที่รายล้อมไปด้วยภูเขาและอากาศเย็น ๆ ทำให้วังน้ำเขียวเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวพักอากาศยอดฮิตในประเทศไทย

เที่ยวเขาใหญ่ ชมธรรมชาติท่ามกลางความศิวิไลซ์

เขาใหญ่ เป็นอุทยานแห่งชาติที่แรกของประเทศไทย โดยตั้งอยู่บริเวณเทือกเขาพนมดงรักในทีราบสูงโคราช มีความอุดมสมบูรณ์ไปด้วยพันธุ์ไม้มากมายและสัตว์ป่าตามธรรมชาติ จนได้รับสมญานามอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า “อุทยานมรดกแห่งอาเซียน” ด้วยความที่เต็มไปด้วยธรรมชาติสีเขียว ๆ รอบบริเวณ จึงทำให้มีอากาศที่ไม่ร้อนมากโดยเฉพาะบริเวณที่ราบสูงบนภูเขาจะมีอากาศที่เย็นเป็นพิเศษในช่วงฤดูหนาว จึงกลายเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไปพักผ่อนตากอากาศในช่วงวันหยุด

แหล่งน้ำตกมากมาย สำหรับผู้ที่อยากเสพธรรมชาติ

บริเวณเขาใหญ่เป็นต้นกำเนิดของลำธารที่สำคัญ 5 สาย คือห้วยมวกเหล็ก แม่น้ำลำตะคลอง แม่น้ำปราจีนบุรี แม่น้ำนครนายก และแม่น้ำลำพระเพลิง อีกทั้งยังมีน้ำตกสวย ๆ มากมายให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาเยี่ยมเยือน ไม่ว่าจะเป็น น้ำตกนางรอง น้ำตกสาริกา ที่อยู่ในพื้นที่ของจังหวัดนครนายก และ น้ำตกเหวนรก น้ำตกสามชั้นที่มีทั้งความสวยและความอันตราย

กิจกรรมทางธรรมชาติ สำหรับผู้ที่รักการผจญภัย

เนื่องด้วยเขาใหญ่เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีความอุดมสมบูรณ์มาก มีต้นไม้มากมายเป็นที่พักนักอาศัยของสัตว์ป่าและนกพันธุ์หายาก ดังนั้นจึงมีกิจกรรมสำหรับผู้ที่อยากจะศึกษาธรรมชาติมากมายด้วยเช่นกันไม่ว่าจะเป็นการส่องสัตว์ การเดินป่าค้างคืนแบบ Trekking หรือการเดินป่าเพื่อศึกษาธรรมชาติ กิจกรรมดูนก ขี่จักรยาน ไปจนถึงล่องแก่งอีกด้วย (แน่นอนว่ากิจกรรมการเดินป่าทุกรูปแบบจะต้องขออนุญาติเจ้าหน้าที่ก่อนทุกครั้ง)

พักผ่อนร่างกาย ปล่อยใจไปกับที่พักและอาหารเลิศรส

ไม่ใช่แค่กิจกรรมทางธรรมชาติเท่านั้น เขาใหญ่ยังเป็นแหล่งตากอากาศชื่อดังแห่งหนึ่งในประเทศไทย โดยมีนักท่องเที่ยวเข้าไปเยือนปีละกว่า 1 ล้านคนโดยเฉลี่ย จากความที่มีอากาศอันแสนบริสุทธิ์ เขาใหญ่มีโรงแรมที่พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวกว่า 300 แห่ง ตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ของนักท่องเที่ยว โดยโรงแรม ที่พักหรือรีสอร์ทแต่ละแห่งก็มีจุดขายและกิจกรรมที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นชี่ม้า หรือยิงธนู ไปจนถึงกิจกรรมให้อาหารแกะ ที่ฟาร์มแกะหลากหลายแห่งในเขาใหญ่อีกด้วย

Community Mall ท่ามกลางธรรมชาติ

นอกเหนือจากโรงแรม ที่พักและรีสอร์ทที่เสนอกิจกรรมสนุกสนานมากมายให้กับแขกผู้มาพักหรือนักท่องเที่ยวที่มาเยือน ยังมี Community Mall ที่เป็นศูนย์รวมร้านอาหารและสถานที่จับจ่ายซื้อของรับประทานและของฝาก เช่นปาลิโอ เขาใหญ่ ที่นอกจากจะเปิดให้บริการร้านค้าและร้านอาหารมากมายแล้ว ยังเป็นสถานที่ถ่ายรูปยอดฮิตของนักท่องเที่ยวที่ไปเยือนเขาใหญ่เนื่องจากมีการออกแบบสถาปัตยกรรมภายในให้เมืองกับเมืองเก่าในยุโรป ซึ่งมีความแปลกใหม่จากที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ

คาเฟ่ฮอปปิ้ง กิจกรรมของสุดฮิตคนรุ่นใหม่ที่สามารถทำได้ที่เขาใหญ่

หากนักท่องเที่ยวเบื่อการถ่ายรูปตาม Community Mall แล้ว ก็สามารถทำกิจกรรมที่ตอนนี้คนรุ่นใหม่นิยมทำกันมากเช่น การเที่ยวตามร้านคาเฟ่ (Café Hopping) คือการไปเยือนร้านอาหารแบบ คาเฟ่ ที่มีบริการกาแฟและขนมด้วย ส่วนมากร้านประเภทนี้จะไม่ได้มีแค่อาหารและเครื่องดื่มไว้บริการเสมอไป แต่มีมุมสวย ๆ และการออกแบบร้านที่แปลกและแหวกแนว เอาไว้เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปสวย ๆ ลงในโซเชียลมีเดียของตนเองด้วย

แน่นอนว่าเขาใหญ่ เป็นสถานที่พักตากอากาศของผู้ที่มีไลฟ์สไตล์มากมายหลายแบบ ไม่ใช่แค่การเดินป่า ดูนกส่องสัตว์ แต่ผู้ที่ชอบความชิค ๆ เก๋ ๆ และอยากได้รูปไปอวดเพื่อน ๆ ในโซเชี่ยล มีเดียด้วย นี้คือเหตุผลที่เขาใหญ่ ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ฮิตติดตลาดอยู่ตลอด

นั่งชิว ๆ ริมทะเลและเที่ยวชมสถาปัตยกรรมชิโนโปรตุกีสที่ภูเก็ต

ภูเก็ตเป็นจังหวัดที่อยู่ทางภาคใต้ของประเทศไทยและอยู่ในทะเลอันดามัน ดังนั้นจึงเต็มไปด้วยชายหาดที่สวยงามและมีชื่อหลายแห่ง มีแหล่งชมธรรมชาติที่สวยงามและสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศมากมาย เช่น หาดป่าตอง แหลมพรหมเทพ และหาดราไวย์ แต่ไม่ได้มีเพียงแค่ความสวยงามของชายหาดตามธรรมชาติแห่งทะเลอันดามันเท่านั้นที่เป็นเอกลักษณ์ที่หาชมที่ไหนได้ยาก เมืองภูเก็ตยังเต็มไปด้วยย่านเมืองเก่า อาคารชิโน-โปรตุกีส ซึ่งอยู่ในบริเวณตัวเมืองภูเก็ต ถูกสร้างตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5

ทะเลใส และกิจกรรมมากมายสำหรับนักท่องเที่ยว

นักท่องเที่ยวสามารถเลือกใช้เวลานั่งพักผ่อนได้ที่หาดป่าตอง ซึ่งเป็นหาดที่มีชื่อเสียงมากในภูเก็ต และมีกิจกรรมน่าสนุกให้เลือกทำมากมายไม่ว่าจะเป็น สปีดโบ๊ทและเจ็ตสกี เป็นต้น นอกจากนั้นก็ยังมีหาดราไวย์ ที่เต็มไปด้วยร้านอาหารไทยอร่อย ๆ และอาหารนานาชาติ และอย่าลืมไปเยือนแหลมพรหมเทพ ที่ว่ากันว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดในเมืองไทย เป็นจุดที่เหมาะที่สุดที่จะชมพระอาทิตย์ตกดิน อยู่ห่างจากตัวเมืองภูเก็ตไปทางใต้แค่ประมาณ 19 กิโลเมตร เหมาะจะมาเยือนในช่วงฤดูร้อนเป็นที่สุด และก็อย่าลืมไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์กันซักหน่อยที่จุดชมวิวพุทธอุทยานยอดเขานาคเกิด ที่บนยอดเขามี พระพุทธรูปปางมารวิชัยองค์ใหญ่ที่ทำจากหยกหินอ่อนสีขาวประดิษฐานอยู่ ที่จุดชมวิวนี้ นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นชายหาดได้หลายแห่งไม่ว่าจะเป็น เกาะเฮ อ่าวฉลอง เกาะโหลน และอ่าวมะขามได้ และจะยิ่งสวยเป็นพิเศษยามพระอาทิตย์ตกดิน

อาคารชิโน-โปรตุกีส มรดกทางสถาปัตยกรรมอันทรงคุณค่า

ภูเก็ตเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานเมืองหนึ่งของประเทศไทย เมื่อปี พ.ศ. 2446 นักธุรกิจทั้งชาวตะวันตกและชาวจีนได้หลั่งไหลเข้ามาในภูเก็ต เนื่องจากการทำเหมืองแร่ในภูเก็ตนั้นเจริญก้าวหน้า ทำให้เกิดสิ่งปลูกสร้างที่เป็นการผสมผสานศิลปะแบบตะวันตกและตะวันออกเข้าด้วยกัน กลายเป็นตึกแบบ ชิโน-โปรตุกีส เกิดขึ้นไปทั่วตัวเมือง โดยนอกจากภูเก็ตแล้ว เรายังสามารถเห็นสถาปัตยกรรมแบบนี้ได้ที่มาเลเซีย แต่ก็ไม่สมบูรณ์เท่าที่ประเทศไทย โดยจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมเข้าไปชมอาคารแบบชิโน-โปรตุกีสได้ที่ถนนถลาง – ซอยรมณีย์ ที่จะมีบ้านแบบชิโน-โปรตุกีสเรียงรายติดกันทั้ง 2 ด้าน และถนนพังงา

ภูเก็ตเป็นจังหวัดที่เดินทางไปเที่ยวได้ไม่ลำบากนัก เพราะมีสนามบินภูเก็ตที่ใช้เวลาเดินทางจากสนามบินในกรุงเทพเพียงแค่ 1 ชั่วโมงกว่า ๆ นอกจากนั้นยังเป็นเมืองที่มีที่เที่ยวหลากหลาย มีสถาปัตยกรรมอันแสนมีเสน่ห์ มีอาหารที่อร่อย ร้านคาเฟ่น่ารัก ๆ จุดชมวิวที่งดงามและทะเลที่ทางการประเทศไทยดำเนินการบำรุงและฟื้นฟูให้กลับมาสวยงาม จึงไม่แปลกใจเลยที่ภูเก็ตจะกลายเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญอีกเมืองหนึ่งของประเทศไทย ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

Category: ท่องเที่ยวไทย

Tag: ภูเก็ต, อาคารชิโน-โปรตุกีส, ทะเลภูเก็ต

เครดิตภาพ : https://pixabay.com/en/thailand-phuket-koh-phi-phi-1451382/



Tokyo Disney Sea ดินแดนแห่งเทพนิยายแห่งญี่ปุ่น

ญี่ปุ่นยังคงเป็นประเทศแรก ๆ ในเอเชียที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เลือกไปเที่ยว เพราะว่าสถานที่ท่องเที่ยวเยอะมาก แถมยังเที่ยวได้ทุกฤดู นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติแล้ว ยังมีสวนสนุกที่ขึ้นชื่อและติดอันดับโลกจาก The Walt Disney Company บริษัทสื่อบรรเทิงเพื่อความบันเทิงขนาดใหญ่ หรือที่เรารู้จักกันดีอย่าง Disney อีกด้วย โดยที่ญี่ปุ่นนี้จะมีสวนสนุกของ Disney ทั้งหมด 2 ที่ด้วยกันคือ Tokyo Disney Land และ Tokyo Disney Sea โดยเราจะมาแนะนำ Tokyo Disney Sea ซึ่งเป็น Disney Sea แห่งเดียวในโลกกัน

ความโดดเด่นของ Tokyo Disney Sea จะไม่เหมือนกับสวนสนุกอื่น ๆ ร่วมค่ายอย่าง Tokyo Disney Land ซะทีเดียว โดย Tokyo Disney Sea จะเน้นเป็นเมืองจำลองแบบอเมริกายุคเก่า เป็นเมืองริมอ่าวอันแสนคลาสสิค โดยมีจุดแลนด์มาร์คของสวนสนุกอย่างภูเขาไฟที่ชื่อว่า Prometheus ซึ่งตั้งอยู่หลังทะเลสาป ใจกลาง Tokyo Disney Sea นั่นเอง

โดย Tokyo Disney Sea เค้าจะมีอยู่ด้วยกัน 7 โซนหลัก ๆ

  1. Port Discovery โซนของเล่นน้ำ และโซนเครื่องเล่นสำหรับเด็ก
  2. American Waterfront โซนจำลองบรรยากาศเมืองท่าแบบอเมริกันในยุคเก่า
  3. Lost River Delta โซนจำลองเมืองโบราณของชนเผ่า
  4. Arabian Coast โซนเมืองจำลองที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากอาหรับราตรี
  5. Mermaid Lagoon โซนจำลองเมืองใต้ทะเลจากเรื่อง Little Mermaid มีทั้งกลางแจ้งและในร่ม เป็นโซนที่เต็มไปด้วยเครื่องเล่นสำหรับเด็ก
  6. Mysterious Island โซนจำลองสิ่งก่อสร้างที่อยู่ในระหว่างขุดถ้ำ
  7. Mediterranean Harbor โซนจำลองหมู่บ้านริมน้ำสไตล์เมดิเตอร์เรเนี่ยน เต็มไปด้วยร้านอาหารน่ารัก ๆ

โดยแต่ละโซนเค้าก็จะมีเครื่องเล่นเด็ด ๆ ที่ต่างกันออกไป ข้อดีของ Tokyo Disney Sea คือเครื่องเล่นเค้าจะไม่คล้ายกับเครื่องเล่นอื่น ๆ ในเครือของ Tokyo Disney Land ซึ่งถือว่ามีความเป็นเอกลักษณ์และแปลกใหม่พอสมควรเลยทีเดียว นอกจากนั้นยังเป็นสถานที่ที่เหมาะกับการมาเดท หรือมาถ่ายรูปเล่นอีกด้วย เพราะว่ามีมุมสวย ๆ แปลก ๆ จำลองหมู่บ้านริมน้ำแบบยุโรป ที่ทั้งสวยงามและมีสีสันออกมาได้ดีจริง ๆ แถมยังมีขบวนพาเหรด การแสดงกลางน้ำ และการแสดงภูเขาไฟที่น่าตื่นตาตื่นใจไม่แพ้ Tokyo Disney Land อีกด้วย

อีกสิ่งหนึ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจมาก ๆ คือภายในสวนสนุกก็คือมีอาหารและขนมที่อร่อยและน่ารักสุด ๆ เช่น ขาไก่รมควัน ป๊อปคอร์นรสแปลก ๆ โมจิไอศกรีมและชูโรสโรยน้ำตาล เป็นต้น แถมราคาไม่แพงมาก เรียกได้ว่าไม่ต้องอาหารอาหารหลักทานกันเลยสำหรับสาว ๆ เพราะว่าแค่ซื้อขนมทานระหว่างเดินถ่ายรูปและเล่นเครื่องเล่นก็อยู่ท้องแล้วล่ะ

นักท่องเที่ยวที่เป็นแฟนคลับ Disney มากมาย อาจจะเดินทางเพื่อไปเยือน Tokyo Disney Land ซึ่งเป็นสวนสนุกชื่อดังที่ใคร ๆ ก็อยากมาเที่ยว แต่ Tokyo Disney Sea เองก็มีจุดเด่นที่น่าสนใจ น่าไปเยือนไม่แพ้กัน สำหรับแฟนคลับ Disney หากเป็นไปได้ก็เดินทางไปทั้ง 2 ที่เลยก็ได้นะ รับรองไม่ผิดหวัง