ประเทศอิตาลีเป็นหนึ่งในประเทศที่มีสถาปัตยกรรมสวยงามและมีกลิ่นอายของความคลาสสิคในยุคประวัติศาสตร์อีกที่หนึ่งของโลก ซึ่งหากใครได้ทำความรู้จักประเทศนี้เพิ่มมากขึ้น จะรู้เลยว่าอิตาลีเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่มีฉากหลังเป็นเมืองใหญ่ หนึ่งในต้นกำเนิดความมีอารยธรรมของโลกใบนี้ แน่นอนว่าเมื่อพูดถึงประเทศอิตาลี หลายคนคงจะนึกถึงวิหารมิลานที่สวยงาม และอีกหลายคนคงจะนึกถึงโคลอสเซียม ซึ่งนอกจากจะเป็นเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่ใครหลายคนต่างตั้งความหวังอย่างแน่วแน่ว่าจะต้องไปเยือนให้ได้สักครั้งในชีวิต วิหารโคลอสเซียมยังถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่มีความสำคัญอย่างมากในด้านกีฬา เพราะในอดีตโคลอสเซียมแห่งนี้เคยเป็นสนามกีฬากลางแจ้งขนาดใหญ่ในกรุงโรมมาก่อน และถือเป็นสนามกีฬาในยุคนั้นที่ใหญ่โตที่สุดเท่าที่เคยมีมา
ประวัติศาตร์โดยคร่าวของการก่อตั้งโคลอสเซียม ดินแดนแห่งศึกสังเวียนและการนองเลือด
โคลอสเซียม เป็นสนามกีฬากลางแจ้งขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในกรุงโรม ประเทศอิตาลี โดยสนามกีฬาโบราณแห่งนี้สร้างเสร็จในปี ค.ศ. 80 ซึ่งเป็นช่วงที่จักรพรรดิไททัสปกครองอยู่ โดยวัตถุประสงค์ของการสร้างโคลอสเซียมนั้นก็เพื่อใช้ในการประลองฝีมือของเหล่ากลาดิเอเตอร์ หรือการประลองกับสัตว์ป่าที่ดุร้าย ส่วนระยะเวลาในการสร้างสนามกีฬาแห่งนี้ได้ใช้เวลาเพียงแค่ 10 ปี ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับความใหญ่โตมโหฬารของมัน
สำหรับในส่วนของสนามกีฬานั้นจะมีอัฒจันทร์ที่ก่อด้วยอิฐและหินทรายเป็นรูปวงกลม สามารถจุคนได้มากถึง 50,000 คน และผู้ออกแบบยังสร้างทางระบายน้ำเพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วมสนามในช่วงที่มีฝนตก ซึ่งในปัจจุบันทางระบายน้ำที่ถูกสร้างขึ้นก็ได้กลายมาเป็นต้นแบบของการสร้างสนามกีฬาอื่น ๆ
นอกจากนี้ยังมีความจริงอีกอย่างหนึ่งที่ควรรู้ของสนามกีฬาโคลอสเซียม ก็คือสนามกีฬาแห่งนี้ถือเป็นสนามกีฬาที่แพงที่สุดและใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยสร้างสนามกีฬามาด้วย และถึงแม้ว่าการแข่งขันกีฬาภายในโคลอสเซียมซึ่งเป็นการแข่งขันกีฬาที่มีเดิมพันเป็นชีวิตหรือการต่อสู้กับสัตว์ป่าที่ดุร้าย ซึ่งหลายคนจะถือว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างป่าเถื่อนและเป็นการทารุณกรรมสัตว์อย่างหนึ่ง แต่ในปัจจุบันสนามกีฬาแห่งนี้ก็ได้ถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ในการต่อต้านโทษประหาร ซึ่งภายในบริเวณโคลอสเซียมจะมีไฟสีเหลืองคอยส่องสว่างในทุกครั้งที่มีการยกเลิกโทษประหารชีวิตทุกที่บนโลก
เยี่ยมชม โคลอสเซียม หนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก
ด้วยความที่สนามกีฬาโบราณแห่งนี้เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่เช่นเดียวกันกับความมโหฬารอลังการที่ถูกถ่ายทอดผ่านสายตาประชากรโลกกว่าหลายล้านคน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดที่โคลอสเซียมแห่งนี้จะกลายเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกจากการลงคะแนนของประชากรผ่านทางโซเชียลและโทรศัพท์มือถือ ซึ่งในปัจจุบันยังคงเปิดให้เข้าชมได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 8.30-19.00 โดยตั๋วเข้าชมจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ตั๋วเข้าชมแบบมีไกด์ซึ่งจะมีราคา 17 ยูโร และตั๋วเข้าชมแบบไม่มีไกด์จะมีราคา 16 ยูโร ซึ่งหากใครสนใจสามารถซื้อตั๋วที่ Roman Pass หรือจะซื้อตั๋วออนไลน์ผ่านทาง coopculture.it ก็ได้ตามที่สะดวก