ถ้านึกถึงกรุงเทพฯ เมืองหลวงของประเทศไทย สิ่งแรกที่เข้ามาในความคิดก็คือ ดงตึกสูงที่เรียงรายแข่งกัน ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางเมือง การจราจรที่แออัด ผู้คนขวักไขว่แย่งกันทั้งอาหาร ที่นั่งบนรถสาธารณะ และอากาศสำหรับหายใจ รวมถึงการแต่งกายแฟชั่นของบรรดาวัยรุ่น วัยทำงานที่เดินโฉบเฉี่ยวอวดสายตากัน แล้วพอมานึกถึงว่าจะไปเที่ยวที่ไหนในกรุงเทพฯ พวกห้างสรรพสินค้าชื่อดังต่าง ๆ ก็แย่งกันแสดงตัวในจินตนาการ มีทั้งของขายของกินอยู่บนห้าง ชนิดที่เรียกว่ารวมกันเอาไว้อยู่ที่เดียว แต่คิดดูดี ๆ กรุงเทพฯ อายุเมืองตั้ง 200 กว่าปี ดังนั้นของเก่าก็มีอยู่เยอะ แต่การนำเสนอต่าง ๆ รวมถึงความนิยมไปกระจุกอยู่ที่สิ่งที่สร้างขึ้นมาใหม่ต่างหาก ถ้าพูดกันจริง ๆ กรุงเทพฯ นี่แหละที่เป็นเมืองเก่าอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย ที่ถึงแม้บางจังหวัดจะมีโบราณสถานอายุหลายร้อยปี แต่ถ้าประวัติการตั้งเมือง ทั้งอายุและขนาดของเมืองหลวงประเทศไทย ดูจะนำหน้าเมืองอื่นอยู่มาก
ทั้งคนต่างจังหวัดที่เข้ามาในกรุงเทพมหานครระยะสั้น ๆ หรือคนที่อยู่ในกรุงเทพอยู่แล้ว จะนิยมเลือกไปสถานที่ที่เป็นสมัยใหม่มากกว่า แต่ชาวต่างชาติที่เข้ามาในประเทศ เขาจะไปชมความเก่าแก่ เช่น วัดพระแก้ว วัดโพธิ์ วัดอรุณราชวราราม เป็นต้น เพื่อซึมซับบรรยากาศความเป็นไทย ตัวอย่างที่ยกมาเป็นตัวเลือกยอดนิยมของทั้งฝรั่ง และคนไทยจำนวนมาก แต่ก็เป็นเพียงตัวเลือกที่ถือว่าจำกัด อีกทั้งยังซ้ำกันอีกด้วย ถ้าจะแนะนำฝรั่งให้ไปสถานที่แปลกแตกต่างจากนี้บ้าง ควรแนะนำอย่างเช่น วัดหงส์รัตนาราม ซึ่งเป็นวัดสร้างตั้งแต่สมัยพระเจ้าตากสินมหาราช ภายในอุโบสถงดงามอลังการอย่างยิ่ง มีพระพุทธรูปสำคัญ คือ หลวงพ่อแสน พระพุทธรูปสีดำศิลปะเชียงแสนที่ถูกอาราธนามาประดิษฐานในสยามพร้อมกันกับพระแก้วมรกต และหลวงพ่อทองคำ ที่ประดิษฐานในวิหารหลังอุโบสถ ทั้งยังมีสระน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ที่หลวงพ่อรอด (เสือ) เกจิในสมัยอยุธยาได้ลงอาคมไว้ในแผ่นหินใต้สระ และสมเด็จพระสังฆราชสุก (ไก่เถื่อน, พระอาจารย์ของสมเด็จโต พรหมรังสี) เคยเป็นเจ้าอาวาสในช่วงรัตนโกสินทร์ตอนต้นอีกด้วย
และควรไปเที่ยวย่านเมืองเก่าอย่างเช่น ย่านเสาชิงช้า ที่แค่เห็นเสาชิงช้าตั้งตระห่านก็รู้สึกถึงความขลังและคลาสสิคแล้ว และที่เสาชิงช้านี้เองก็แยกได้เป็นทาง 3 แพร่ง ซึ่งแต่ละแพร่งก็มีชุมชนเก่าแก่ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ร้านอาหารอร่อยมีเยอะ อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าพ่อเสือ ศาลจีนเก่าและศักดิ์สิทธิ์มากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย และสามารถเดินต่อไปถึงย่านเยาวราชแหล่งรวมวัฒนธรรมจีน ซึ่งเป็นศูนย์รวมสินค้า อาหาร เมืองเก่า เช่น วัดเล่งเน่ยยี่ วัดยอดนิยมของคนไทยเชื้อสายจีน แต่นักท่องเที่ยวควรไปวัดจีนแห่งแรกในไทย ที่คนรู้จักไม่มากนัก นั่นคือ วัดบำเพ็ญจีนพระ (ย่งฮกยี่) แม้จะเป็นวัดเล็กในซอยแคบ แต่ถือเป็นวัดสำคัญในประวัติศาสตร์ และมีเสน่ห์ขลังจากอายุที่อยู่มายาวนาน
ย่านเก่าแก่ในกรุงเทพมหานครนั้นมีอยู่หลายแห่ง ทั้งตลาดพลู ที่มีทางรถไฟประกอบกับอาคารเก่า และร้านอร่อย ให้ได้เดินกันเพลิน ๆ สัมผัสบรรยากาศไทย ๆ หรือไม่ก็ไปนั่งเล่นที่ตลาดชุมชนริมน้ำหัวตะเข้ ซึมซับความคลาสสิคของชุมชนไทยในช่วงยุคร้อยปีหลัง รวมถึงชุมชนกุฎีจีน ย่านพหุวัฒนธรรมเก่าแก่ ที่มีทั้งวัดกัลยาณมิตร ซึ่งสร้างตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 ใกล้กันนั้นก็มีศาลเจ้าเกียนอันเกงของชาวฮกเกี้ยนในสมัยโบราณ มีพระแม่กวนอิม ซึ่งอัญเชิญมาจากประเทศจีนในสมัยนั้นประดิษฐานเป็นองค์ประธาน และท้ายสุดที่มีชื่อเสียงอย่างมาก คือ โบสถ์ซางตาครู้ส สร้างในปี พ.ศ. 2313 เป็นต้น
ที่เที่ยวในกรุงเทพฯ มีเยอะมาก มีครบทุกอย่าง ที่กล่าวถึงข้างต้นก็กล่าวเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ไม่รวมสถานที่ที่น่าไปอีก เช่น วัดมหาบุศย์ ไปไหว้ย่านาคพระโขนง หรือไปวัดภาษี ไปดูศาลบุญเพ็ง (หีบเหล็ก) อาชญากรในตำนานของไทย และอื่น ๆ อีกมากมายที่คนไม่ต้องแห่ไปรวมตัวกันอยู่แค่สถานที่ยอดนิยม