ฮอยอันอยู่ตอนกลางของเวียดนามติดฝั่งแม่น้ำ ทำให้ในสมัยก่อนเป็นเมืองท่าการค้าของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีพ่อค้าต่างชาติมาทำการค้าขาย จึงได้รับอิทธิพลวัฒนธรรมที่ผสมผสานเข้ามา จวบจนปัจจุบันชาวเมืองก็ยังคงรักษาสภาพเอาไว้ได้ดี แสดงให้เห็นวัฒนธรรมวิถีชีวิตที่มีความโดดเด่นและมีอิทธิพลให้คนรุ่นหลังรู้จักพัฒนาเรื่อยมา จนทำให้ยูเนสโกขึ้นทะเบียนเขตเมืองเก่าฮอยอันเป็นมรดกโลก ตึกในฮอยอันยังคงสภาพดั้งเดิมเป็นตึกเก่าทาสีเหลือง ตกแต่งด้วยต้นไม้ ดอกไม้ประดับบนตึกทำให้ดูสวยงามมีชีวิตชีวา นอกจากนี้เมืองฮอยอันก็ดูเหมือนจะถูกตกแต่งไปด้วยร้านขายของที่ระลึกเป็นงานศิลปะหัตถกรรมที่น่าสนใจ ทั้งรูปวาด งานเขียนสี ของแฮนด์เมด ที่นำมาวางขายหน้าร้านให้เราได้ชื่นชม พอตกกลางคืนตึกสีเหลืองทั่วเมืองถูกประดับประดาด้วยโคมไฟหลากสีสันสว่างไสว แลดูอบอุ่นอิ่มเอมใจ พร้อมกับสินค้างานศิลปะหัตถกรรมของแต่ละร้านก็เหมือนพร้อมใจกันช่วยเติมแต่งให้เมืองฮอยอันน่าหลงไหลยิ่งขึ้นไปอีก
เสน่ห์ของเมือง
เราจะเห็นผู้คนโดยทั่วไปสวมหมวกน๊อน ล้า หรือหมวกแบบเวียดนามใส่เดินไปมา เดินถือหาบขายของ และนั่งพายเรือ ทำให้คนที่นี่ดูมีเสน่ห์ เมื่อเดินไปตามเส้นถนนต่าง ๆ จะพบว่ามีวัดมากมายและมีผู้คนมีกราบไหว้อยู่เป็นระยะ เดินต่อไปจะพบบริเวณริมน้ำมีร้านอาหารคาเฟ่เรียงรายให้นักท่องเที่ยวได้นั่งทานอาหารและเครื่องดื่มริมแม่น้ำ ซึ่งริมน้ำก็เป็นจุดหนึ่งที่ทำให้ฮอยอันมีเสน่ห์น่าหลงไหลไม่น้อย
เรียนรู้ผ่านอาหาร
อาหารที่ฮอยอันก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาด ไม่ว่าจะเป็นก๋วยเตี๋ยวเฝอ บั๋นหมี่ หรือจะเป็นขนมทานเล่น หากท้องคุณยังทานไหวอยู่ก็แนะนำให้ลองทานให้หมด ฮอยอันยังมีหมู่บ้านที่ปลูกผักออร์แกนนิค เราจะเห็นแปลงปลูกผักสีเขียว และมีร้านอาหารที่มีวัตถุดิบจากผักออร์แกนนิคไว้คอยบริการนักท่องเที่ยวอีกด้วย ปกติอาหารเวียดนามมีผักเยอะอยู่แล้ว หากได้ทานผักออร์แกนนิคคงดีไม่น้อย
ปั่นจักรยาน ตามหัวใจ
เราสามารถเช่าจักรยานชมเมืองไปพร้อมกับชาวฮอยอันและยังสามารถไปจนถึงทะเลได้ เมื่อชมเมืองจนเหนื่อยแล้วก็สามารถไปนั่งพักที่ Rest Stop For Tourist ซึ่งมีไว้คอยบริการนักท่องเที่ยว พร้อม WiFi ที่สามารถนั่งชมวิวชั้นบนได้ ถึงแม้จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาอย่างมากมายแต่ผู้คนที่นี่ก็ยังสามารถรักษาวิถีชีวิตของตนไว้ให้เราได้เห็น จึงไม่แปลกใจเลยที่มีทั้งละครและมิวสิควีดิโอเข้ามาใช้เมืองฮอยอันเป็นโลเคชั่นในการถ่ายทำ