Lost in Penang หลงไปในปีนัง

ปีนัง เมืองมรดกโลกที่มีเอกลักษณ์เฉพาะอันเชิญชวนให้ผู้คนหลั่งไหลไปเยี่ยมเยือนอยู่เสมอ ด้วยสถาปัตยกรรมของตึกรามบ้านช่องที่ผสมผสานระหว่างตะวันออกและตะวันตกได้อย่างลงตัว บวกกับทัศนียภาพของเมืองที่มีต้นไม้ร่มรื่นเขียวขจีแผ่ไปทั่ว อีกทั้งยังมีชายฝั่งทะเล จึงไม่แปลกที่ผู้คนจะพาไปเยี่ยมชมท่องเที่ยวพักผ่อน หรือแม้แต่ไปใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น

เมืองมรดกโลกหลากวัฒนธรรม

เมื่อพูดถึง เมืองปีนัง ใครหลายคนคงนึกภาพว่าเป็นเมืองสไตล์จีน มีสถาปัตยกรรม ผู้คน และอาหารที่เป็นจีนอยู่มากมาย ซึ่งก็ไม่ผิด แต่หากจะมองให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ปีนัง ยังมีความหลากหลายมากกว่านั้น นอกจากจะมีการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมของตะวันออกทั้งมาเลย์ จีน และอินเดียเข้าด้วยกันแล้ว ยังมีกลิ่นอายของวัฒนธรรมตะวันตกที่ได้รับตั้งแต่ช่วงสมัยอาณานิคมอังกฤษให้เราได้สัมผัส เราจะเห็นตึกต่าง ๆ เป็นสไตล์โคโลเนียลแต่มีการประดับด้วยโคมไฟจีน ซึ่งเราสามารถเดินไปตามตึกซอกซอยได้ทั่วเมือง ซึ่งแต่ละซอกแต่ละมุมก็ให้ความประทับใจที่ต่างกัน จึงไม่แปลกใจเลยที่ปีนังจะได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลก

สัมผัสความฮิปเตอร์

นอกจากตึกจะสวยงามไม่เหมือนใครแล้ว ปีนังยังมีถนนสตรีทอาร์ต เป็นถนนคนเดินมีตึกแถวสไตล์โคโลเนียลซึ่งปัจจุบันนี้เป็นร้านค้าขายของที่ระลึก มีงานแฮนด์เมดให้เลือกอย่างหลากหลาย สิ่งที่เด่นคือตามผนังตึกจะมีงานเขียนผนังสีหลากหลายแนวที่แสดงวิถีชีวิตปีนังในอดีต เช่น เด็กซ้อนรถจักรยาน เด็กเล่นชิงช้า หรือก๋วยเตี๋ยวรถเข็น ทำให้เป็นจุดสนใจของเหล่านักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบเข้ามาถ่ายรูปกันไม่ขาดระยะ

ชีวิตชีวายามค่ำคืน

เมื่อยามตกค่ำเราสามารถไปเดินเล่นริมชายหาดพักผ่อนหย่อนใจเปลี่ยนบรรยากาศเมืองเป็นบรรยากาศแบบธรรมชาติ ซึ่งทะเลปีนังก็สวยงามใช้ได้เลยทีเดียว พอเริ่มมืดก็กลับเข้าเมืองมาหาของกินที่ตลาดโต้รุ่ง ซึ่งปีนังก็ขึ้นชื่อเรื่องของกิน อาหารที่มีชื่อเสียงหลายอย่างของมาเลเซียถ้าจะหาทานให้อร่อยจริง ๆ ก็ต้องมาทานที่ปีนัง เช่น ฉ่าก๋วยเตี๋ยว ลักซา และของหวานอย่างเชลเดิ้ลหรือลอดช่องมาเลย์ ทานแล้วรสชาติอร่อยติดลิ้นไม่เหมือนที่ใดจนอยากกลับมาทานอีก นอกจากนี้ก็มีอาหารอื่น ๆ อีก ไม่ว่าจะเป็นอาหารจีน มาเลย์ และอินเดียที่สามารถหาชมลิ้มรสกันได้พร้อมกันในที่เดียว หากมาแล้วก็ไม่ควรพลาดที่จะได้ลิ้มลองอาหารท้องถิ่นเพื่อสัมผัสความเป็นปีนังให้มากขึ้น