หากจะพูดถึงประเทศเก่าแก่ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากมาย ญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในประเทศที่เรานึกถึงเสมอ ไม่ว่าจะเป็นภัยพิบัติธรรมชาติ หรือไฟของสงครามที่เคยพัดผ่านประเทศแห่งนี้มา ล้วนแล้วแต่ไม่อาจจะทำอะไรประเทศที่แสนแข็งแกร่งนี้ได้ นอกจากนั้น ญี่ปุ่นยังเป็นหนึ่งในประเทศที่น่าไปเที่ยวมาก ๆ เพราะนอกจากจะมีอาหารอร่อย ๆ มากมายที่ขึ้นชื่อในระดับโลกแล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ ทั้งทางวัฒนธรรมและธรรมชาติอีกด้วย
หนึ่งในสิ่งที่นักท่องเที่ยวอยากดั้นด้นเดินทางไปชมที่สุดเห็นจะเป็นภูเขาไฟฟูจิ หรือ ฟูจิซัง ภูเขาไฟลูกใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่ในภูมิภาคคันโต ภูเขาไฟฟูจินั้นเป็นสัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่นได้และรับการยกย่องจาก UNESCO ให้เป็นหนึ่งในมรดกโลก เราจะได้เห็นทั้งภาพวาดและศิลปะต่าง ๆ ของญี่ปุ่นตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันที่บอกเล่าความยิ่งใหญ่ของภูเขาไฟลูกนี้ โดยรอบ ๆ ภูเขาไฟฟูจิจะทีที่ราบลักษณะเป็นแอ่งจากการปะทุของความร้อนใต้ภูเขาไฟฟูจิ เกิดเป็นทะเลสาปขนาดใหญ่ทั้งหมด 5 ทะเลสาปด้วยกันได้แก่ ได้แก่ทะเลสาป Kawaguchiko ทะเลสาป Saiko ทะเลสาป Shojiko ทะเลสาป Motosuko และทะเลสาป Yamanakako (สุดตะวันออก)
จุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิที่เป็นที่นิยม
นักท่องเที่ยวสามารถชมวิวของภูเขาไฟฟูจิได้ โดยจะมีจุดที่เป็นบริเวณชมวิวที่ดีที่สุด และเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว 2 จุดด้วยกันคือที่คาวากูจิโกะและฮาโกเน่นั้นเอง
คาวากูจิโกะ เป็นทะเลสาปที่อยู่ใกล้กับภูเขาไฟฟูจิ ดังนั้นเราจึงสามารถเห็นวิวภูเขาไฟฟูจิได้อย่างชัดเจน โดยทะเลสาปนี้ติดกับทางตอนใต้ของจังหวัดยามานาชิ เป็นเมืองเล็ก ๆ ที่แสนเงียบสงบ มีรถ Retro bus ค่อยให้บริการวิ่งรอบ ๆ ทะเลสาป เป็นการคมนาคมสาธารณะเดียวที่จะช่วยให้นักท่องเที่ยวเที่ยวตามจุดต่าง ๆ รอบ ๆ ทะเลสาปได้ ไม่ว่าจะเป็นขึ้น Rope way ไปชมภูเขาไฟฟูจิและวิวเมืองจากมุมสูง และเจดีย์ Chureito
ฮาโกเน่ เป็นเมืองที่อยู่ไม่ไกลจากโตเกียวมากนัก อยู่ทางตะวันตกประมาณ 70 กิโลเมตรเท่านั้น ทำให้เป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยว นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมต่าง ๆ ที่โดนใจนักท่องเที่ยวเช่นขึ้น Rope way ไปทานไข่ดำ ที่ว่ากันว่าหากได้ทานแล้วจะมีอายุยืนไปอีก 7 ปี (แน่นอนว่าไข่ดำนี้ถูกทำให้สุกด้วยน้ำร้อนภูเขาไฟที่มีแร่ธาตุมากมายนั้นเอง) และยังเป็นแหล่งแช่ออนเซ็นที่มีให้เลือกหลากหลายแบบทั้งในร่ม กลางแจ้ง ไปจนถึงออนเซ็นไวน์!
ญี่ปุ่นนั้นเป็นประเทศที่ว่ากันว่ามากี่ครั้งก็ไม่เบื่อ
แถมยังเที่ยวได้ทุกฤดู โดยแต่ละฤดูก็จะมีความสวยงามที่แตกต่างกันไป
ล้วนแล้วแต่ตราตรึงใจผู้มาเยือนทั้งนั้น หากมีโอกาส อย่าลืมลองไปสัมผัสความมีเสน่ห์ของประเทศญี่ปุ่นกันนะ