เรื่องน่ารู้ ก่อนเดินทางไปไปดูซีเกมส์

มหกรรมการแข่งขันกีฬาของ 11 ชาติสมาชิกภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรือซีเกมส์ กำลังจะเวียนมาบรรจบอีกครั้งในปลายเดือนพฤศจิกายน 2019 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ แน่นอนว่ากองเชียร์กีฬาชาวไทยหลายคนเริ่มเตรียมตัวกันแล้ว เพราะนี่คือมหกรรมกีฬาอีกหนึ่งรายการที่ชาวไทยเราไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง ส่วนคนที่กำลังชั่งใจอยู่ เราก็มีข้อมูลสำหรับซีเกมส์ครั้งที่ 30 ในดินแดนตากาล็อกมาช่วยในการตัดสินใจ ไม่แน่ถ้าได้ทราบข้อมูลเหล่านี้หลายคนอาจจะต้องเตรียมเก็บกระเป๋าเพื่อตามไปเชียร์ทัพนักกีฬาไทยกับเขาบ้างเลยทีเดียว

สำหรับแฟนกีฬาที่สะสมวันลาไว้อย่าได้ลังเล นำออกมาใช้ช่วงการแข่งขันกีฬาซีเกมส์นี่แหละเหมาะสุด ๆ เลยทีเดียวเพราะจะได้ชมกีฬา ท่องเที่ยว เก็บเกี่ยวความสุขความประทับใจแบบไม่ต้องเร่งรีบนัก ที่สำคัญซีเกมส์หนนี้ครอบครัวใหญ่สามารถพาลูก ๆ หรือญาติผู้ใหญ่ไปชมกีฬาด้วยกันได้สบาย ๆ เพราะเจ้าภาพจัดเต็มแบบไม่หวงอัดแน่นด้วย 56 ชนิดกีฬา มากที่สุดเท่าที่เคยมีมา หลากหลายชนิดกีฬาถูกบรรจุเข้ามาใหม่ในซีเกมส์หนนี้ เมื่อรวมกับประเภทกีฬาที่มีแต่เดิมจึงทำให้เหมาะกับรสนิยมของคนทุกช่วงวัย ผู้ปกครองสามารถพาเด็ก ๆ ไปชมการแข่งขัน E-sport และกีฬาเอ็กซ์ตรีมได้ ในขณะเดียวกันกีฬาขวัญใจผู้สูงอายุอย่าง เปตอง, บิลเลียด, โบว์ลิ่ง, หมากรุก, ลีลาศ ก็น่าพาญาติผู้ใหญ่ไปดูใช่ย่อย ในส่วนของกีฬาหลัก ๆ ที่ชมกันได้ทั้งครอบครัวอย่างฟุตบอล กรีฑา ว่ายน้ำ ฯลฯ ก็ยังอยู่ครบขาดก็แต่เทนนิส ฟุตซอล และเรือพายเท่านั้นที่เจ้าภาพตัดออกด้วยเหตุผลหลาย ๆ ประการ

ส่วนใครที่ใช้วันลาจนไม่เหลือหรือต้องการสงวนวันลาไว้ใช้ในช่วงเทศกาลปีใหม่ก็ไม่ต้องเสียดายไป ยังสามารถใช้วันหยุดสุดสัปดาห์ตามไปเชียร์นักกีฬาของไทยเราได้ สายการบินน้อยใหญ่ในปัจจุบันมีเที่ยวบินตรงสู่เมืองหลัก ๆ ของประเทศฟิลิปปินส์คอยรองรับอยู่อย่างมากมาย รับรองว่าไปแล้วกลับมาทันวันทำงานอย่างแน่นอน โดยชั้นประหยัดสนนราคาเริ่มต้นแค่สองพันกว่าบาทเท่านั้น ซึ่งเรื่องค่าใช้จ่ายนี่ก็นับเป็นอีกหนึ่งความโชคดีสำหรับคนไทย เพราะประเทศฟิลิปปินส์กับเมืองไทยเราค่าครองชีพไม่ต่างกันมากนัก เมืองไทยอาจจะถูกกว่าอยู่นิดหน่อย ดังนั้น ค่าที่พัก อาหาร การเดินทาง และการบริการหลาย ๆ ด้านจึงมีราคาที่คนไทยพอจะใช้จ่ายได้อย่างสบายใจ เรียกว่าไปชมกีฬาซีเกมส์ครั้งนี้ไม่มีกระเป๋าฉีกอย่างแน่นอน

ซีเกมส์ครั้งที่ 30 ณ.ประเทศฟิลิปปินส์ กำหนดจัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน – 11 ธันวาคม พ.ศ. 2562 มีชาติสมาชิกเข้าร่วมการแข่งขัน 11 ประเทศได้แก่ ไทย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย เมียนมา กัมพูชา อินโดนีเซีย เวียดนาม ลาว สิงคโปร์ บรูไน และติมอร์ เลสเต โดยประเทศไทยยังคงถูกวางให้เป็นเต็งหนึ่งในการครองความเป็นเจ้าเหรียญทอง และครั้งนี้ไทยเราได้ส่งนักกีฬาเข้าชิงชัยถึง 30 ชนิดกีฬา ไฮไลท์สำคัญยังคงเป็นกีฬาฟุตบอลที่ทีมชาติไทยในฐานะแชมป์เก่าได้อยู่ร่วมสายกับทีมชาติเวียดนามคู่แข่งแย่งความเป็นหนึ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้