การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมเป็นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์รูปแบบหนึ่งที่เน้นศิลปะ วัฒนธรรม วิถีชีวิต และศาสนา เป็นส่วนใหญ่ซึ่งรูปแบบการท่องเที่ยวจะไม่หวือหวา หรือครื้นเครงจนเกินไปกลุ่มนักท่องเที่ยวจึงมีลักษณะเฉพาะ เช่น ครอบครัว ผู้สูงอายุ เด็ก และเยาวชน เป็นต้น มีที่สถานแห่งหนึ่งที่เราจะพาไปเยี่ยมเยือน ได้แก่ “ศูนย์วิปัสสนาสากลไร่เชิญตะวัน” หรือ “ไร่เชิญตะวัน”
“ไร่เชิญตะวัน” เป็นศูนย์ปฏิบัติธรรมที่พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (ว.วชิระเมธี) ได้สร้างขึ้นอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองเชียงราย เขตตำบลห้วยสัก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย บนพื้นที่ประมาณ 200 ไร่ ภายในไร่เชิญตะวันมีความร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ ฉากหลังเป็นภูเขามีอากาศบริสุทธิ์เย็นสบายตลอดทั้งปี ตกแต่งด้วยตุงสีสันหลากหลายให้มีบรรยากาศแบบล้าน มีธรรมะศิลปะที่แฝงไปด้วยหลักธรรมในการดำเนินชีวิตเพื่อให้ผู้ปฏิบัติธรรมและนักท่องเที่ยวได้อ่าน และนำแนวคิดไปปรับใช้ ด้วยบรรยากาศที่เงียบสงบและห้อมล้อมด้วยธรรมชาติที่สวยงาม ไร่เชิญตะวันจึงเป็นสถานที่ที่เหมาะกับการพักผ่อนทั้งกายและใจ เป็นการเติมพลังงานให้กลับไปต่อสู้กับความเร่งรีบในเมือง
พื้นที่ไร่เชิญตะวันกว้างขวางจุดที่แนะนำให้ไปเช็คอิน ได้แก่ อุโมงค์กล้วยไม้มงคล 38 ประการ รูปปั้นปริศนาธรรมสามเณรปิดหูปิดตาปิดปากปิดใจ หุ่นซุปเปอร์ฮีโร่ที่ต้องการสื่อถึงสุดท้ายไม่มีใครช่วยเราได้นอกจากตัวเราเอง หลวงพ่อน็อตที่บอกถึงเศษเหล็กยังมีคุณค่าตัวเราเป็นมนุษย์ก็ย่อมทำให้มีค่า ซุ้มโคมล้านนาเป็นการให้ดวงตาหรือให้ปัญญาคน จะเห็นว่าไร่เชิญตะวันเป็นสถานที่ตอบวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันไปหากใครต้องการความสงบด้วยการปฏิบัติธรรมก็มีหลักสูตรให้เลือก 3 วัน 5 วัน และ 7 วัน หรือหากใครประสงค์เพียงการพักผ่อนเวลาเดินช้าลงก็เดินทางมาเที่ยวนั่งนอนสัมผัสธรรมชาติที่สวยงามและหลักธรรมะง่าย ๆ ที่อยู่ในทุกจุดของไร่เชิญตะวันแค่นี้ใจที่วุ่นวายของเราก็ได้หยุดพักลงบ้าง บางคนอาจจะมองว่าสถานที่ปฏิบัติธรรมอาจจะกันดานไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกสักเท่าไร แต่กลับกันไร่เชิญตะวันมีทุกอย่างพรั่งพร้อมสำหรับขาจรที่แวะไปเยี่ยมเยียน ไม่ว่าจะเป็น ร้านอาหารการกิน ร้านกาแฟ ร้านขายของฝากของที่ระลึก
เราเดินทางไปไร่เชิญตะวันได้ง่าย ๆ โดยตั้งต้นที่ห้าแยกอนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราช มุ่งหน้าไปตามถนนพหลโยธิน (ไปอำเภอพาน) เมื่อถึงสี่แยกแม่กรณ์ให้เลี้ยวซ้ายไปตามถนนหมายเลข 1020 เส้นทางเชียงราย-เทิง อีกประมาณ 15 กม. จนถึงสี่แยกห้วยสักหลังจากนั้นตรงไปอีก 500 เมตรแล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนเล็กตามป้ายบอกทางอีกประมาณ 7 กม. ทางเข้าไร่เชิญตะวันจะอยู่ด้านขวามือสังเกตปากทางจะมีรูปปั้นเณรน้อยชี้ทางให้อยู่ ดังนั้น หากใครมองหาสถานที่ท่องเที่ยวที่สงบไม่วุ่นวายทั้งกายและใจลองแวะไปที่ “ไร่เชิญตะวัน” กันได้ทุกวัน แต่ควรเลือกหน้าหนาวเพราะจะเป็นช่วงที่ดอกไม้สวยงามที่สุด และอากาศกำลังเย็นดีที่เลยทีเดียว