กินอิ่มและฉ่ำบุญ กันที่ “กว๊านพะเยา”

“กว๊านพะเยา” ทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศไทย ตั้งอยู่กลางอำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา มีพื้นที่ราว 12,831 ไร่ เป็นบึงน้ำจืดขนาดใหญ่ที่มีฉากหลังเป็นภูเขาที่ทอดยาวขวางทางทิศตะวันตก ยามเย็นริมฝั่งกว๊านเราจะเห็นความสวยงามของพระอาทิตย์ตกดิน สะท้อนสีทองบนผืนน้ำอันเงียบสงบช่างเป็นภาพที่ตรึงตาตรึงใจยิ่งนัก กว๊านพะเยารองรับน้ำจากลำห้วยทั้งหมด 12 สาย ที่มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาสันปันน้ำ หรือ ดอยหลวง มีพันธุ์ปลาน้ำจืดกว่า 45 ชนิด เป็นที่เพาะพันธุ์ปลาน้ำจืดที่สำคัญ และกลายเป็นแหล่งผลิตภัณฑ์ปลาส้มแสนอร่อยที่ขึ้นชื่อเป็นสินค้า OTOP ของจังหวัดพะเยาที่ใครไปใครมาต้องถือกลับไปเป็นของฝากแก่ญาติสนิทมิตรสหาย

บริเวณริมกว๊านพะเยาได้จัดให้มีพื้นที่สาธารณะสำหรับออกกำลังกาย และเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ มีร้านอาหารพื้นเมือง และอาหารจากกว๊านจำพวก กุ้ง หอย ปู ปลา ให้ได้เลือกซื้อได้ตามความชื่นชอบ ในช่วงวันหยุดอาจจะคลาคล่ำไปด้วยผู้คนที่มาพักผ่อนกินลมชมวิวทิวทัศน์ ดังนั้นหากจะไปนั่งชิล ๆ อาจจะต้องบริหารจัดการเวลาให้ดีหน่อย

สำหรับใครที่ตื่นเช้าก็แนะนำให้มาเดินสูดอากาศบริสุทธิ์ดูนกน้ำออกหากินได้ที่ริมกว๊านพะเยา พอ 7 โมงเช้าก็รอใส่บาตรข้าวเหนียวกันก่อนแถว ๆ ท่าเรือริมกว๊าน หากไม่ได้เตรียมกับข้าวมาด้วยก็สามารถหาซื้อได้บริเวณนั้นได้เลย  หลังจากใส่บาตรรับศีลรับพรเสริมความเป็นสิริมงคลแล้ว แดดยังอ่อน ๆ ไม่ร้อนสักเท่าไหร่ก็ถึงเวลาไปนมัสการหลวงพ่อศิลากลางกว๊านพะเยาด้วยเรือพายสนนราคาค่าบริการเพียงคนละ 20 บาทเท่านั้น ซึ่งใช้เวลาเดินทางไปกลับเพียง 20 นาที ตามประวัติหลวงพ่อศิลาเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย อายุกว่า 500 ปี ค้นพบเมื่อปี 2526 บริเวณวัดติโลกอารามที่จมอยู่ใต้กว๊านพะเยา ชาวบ้านได้อัญเชิญมาประดิษฐานที่วัดศรีอุโมงค์คำ กระทั่งปี 2550 ได้อัญเชิญหลวงพ่อศิลากลับไปที่วัดติโลกอารามกลางกว๊านพะเยาตามเดิม โดยในคืนเพ็ญวันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา และวันอาสาฬหบูชา จะมีพิธีเวียนเทียนกลางน้ำโดยล่องเรือไปเวียนเทียนบูชาองค์หลวงพ่อศิลากลางกว๊านพะเยา เราจะเห็นผู้คนอยู่บนเรือถือดอกไม้ธูปเทียนและดวงประทีปส่องแสงระยิบระยับอร่ามงดงามสะท้อนผืนน้ำกลางกว๊านพะเยา จึงเป็นภาพที่ประทับใจยิ่ง

ผ่านมาภาคเหนือเมื่อใดก็อย่างลืมเที่ยวเมืองพะเยากันก่อน แวะพักผ่อนหย่อนใจกับวิถีชีวิตเรียบง่ายริมฝั่งกว๊านพะเยา สัมผัสกับประเพณีวัฒนธรรมล้านนาที่ยังคงไว้อย่างสมบูรณ์ ร่วมทำบุญริมฝั่งกว๊านหรือจะลงเรือไปกราบพระกลางกว๊านพะเยา เราจะได้พบประสบการณ์ที่แปลกน่าจดจำและไม่เหมือนที่ใดในโลกแน่นอน

ไปธาราบำบัดกันที่ “บ่อน้ำพุร้อนห้วยทรายขาว” อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย

เมืองไทยมีแหล่งน้ำพุร้อนหลายแห่งที่เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจโดยการแช่ร่างกายในน้ำอุ่น ๆ หรือเรียกว่า “ธาราบำบัด หรือ “Aquatherapy” ซึ่งเป็นการใช้คุณสมบัติที่ยืดหยุ่นของน้ำช่วยลดอาการปวด และให้กล้ามเนื้อได้ผ่อนคลายให้เลือดได้ไหลเวียนเป็นอย่างดี อีกทั้งเชื่อว่าน้ำแร่ยังช่วยรักษาโรค และทำให้ผิวพรรณผ่องใสแลดูอ่อนวัยยิ่งขึ้นด้วย

ถ้าเราเดินทางไปตามถนนพหลโยธินเส้นทางเชียงราย-พะเยา มีบ่อน้ำพุร้อนเก่าแก่แห่งหนึ่งที่เราควรแวะเยี่ยมเยียนนั่นก็คือ “บ่อน้ำพุร้อนห้วยทรายขาว” แหล่งน้ำร้อนธรรมชาติอุณหภูมิประมาณ 60 องศาเซลเซียส ตั้งอยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอพาน จังหวัดเชียงราย ไปทางทิศเหนือประมาณ 10 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 16 ไร่ ของหมู่ 5 ต.ทรายขาว ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของแขวงการทางเชียงราย และองค์การบริหารส่วนตำบลทรายขาวที่ร่วมกันพัฒนาพื้นที่ให้เป็นจุดเช็คอินแห่งใหม่ของจังหวัดเชียงราย จากตำแหน่งที่ตั้งบ่อน้ำพุร้อนอยู่ติดถนนใหญ่การเดินทางที่สะดวกสบายทำให้นักท่องเที่ยวนิยมใช้เป็นจุดแวะพักระหว่างเดินทางเพื่อไปต่อยังจุดหมายปลายทาง

บ่อน้ำร้อนแห่งนี้สิ่งอำนวยความสะดวกที่เตรียมไว้ให้นักท่องเที่ยวครบครันโดยแยกอาคารแช่เท้าและอาคารอาบน้ำออกจากกัน มีการรักษาความสะอาดตลอดเวลา มีสถานที่จอดรถได้ประมาณ 30 คันเพียงพอรองรับกับนักท่องเที่ยวที่ขาจรหมุนเวียนเข้าออก มีร้านอาหารจำหน่วย ร้านสินค้าของฝาก OTOP ก็มีให้เลือกอย่างหลากหลาย และพื้นที่โดยรอบของ “บ่อน้ำพุร้อนห้วยทรายขาว” ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ สวนหย่อมและดอกไม้ให้ดูเพลิดเพลินจำเริญตา

วันหยุดสุดสัปดาห์ยาว ๆ ถ้าไปกันเป็นครอบครัวตระเตรียมเสื่อไปปู และสั่งซื้ออาหารนั่งกินข้าวสานสัมพันธ์กันให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เมื่ออิ่มหนำสำราญกันเต็มที่แล้วก็ถึงเวลาไปนอนแช่น้ำแร่กันให้สบายตัวและสบายใจ ที่สำคัญฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ อีกด้วย แต่ถ้าอยากจะบริจาคเพื่อเป็นค่าจัดการพื้นที่ให้ดีขึ้นก็สามารถติดต่อที่องค์การบริหารส่วนตำบลทรายขาว ซึ่งก็อยู่ไม่ห่างกันมากนักหรือติดต่อสอบถามเจ้าหน้าที่บริเวณน้ำพุร้อนได้เลย ส่วนใครก็ตามที่ได้แวะพักแช่น้ำแร่จนผ่อนคลายหายเมื่อยล้าแล้ว หากอยากไปเที่ยวต่อสถานที่อื่น ๆ ในบริเวณใกล้เคียงกันไม่ว่าจะเป็นวัดที่มีความเป็นเอกลักษณ์ของศิลปะล้านนา เช่น วัดพระธาตุจอมแว่ วัดทรายขาว วัดอุดมวารี หรือวัดพระธาตุดอยงู เป็นต้น หรือความสวยงามของธรรมชาติที่มีความสมบูรณ์หลากหลายทางชีวภาพ เช่น น้ำตกปูแกง น้ำตกห้วยทรายขาว ถ้ำผาโขง ถ้ำผายาว หรืออุทยานแห่งชาติดอยหลวง เป็นต้น

หากมีโอกาสได้ขึ้นเหนือมาเที่ยวเชียงรายเมื่อไรก็อย่าลืมแวะอาบน้ำแร่แช่น้ำอุ่น “ธาราบำบัด” จากน้ำแร่บริสุทธิ์ใต้พิภพที่ “บ่อน้ำพุร้อนห้วยทรายขาว”  อำเภอพานกันดูสักครั้ง เพื่อให้น้ำแร่ธรรมชาติซึมผ่านผิวกาย และช่วยนำพาความอ่อนล้าอ่อนเพลียละลายหายไป รวมถึงปลดเปลื้องโรคภัยไข้เจ็บให้หมดไปอย่างที่คนโบราณได้กล่าวไว้อีกด้วย

“เล่นน้ำตก ชมภูสูง ดูหมอกสวย” กันที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่

เข้าสู่ไตรมาสสุดท้ายของปีแล้วผู้ที่นิยมเดินทางท่องเที่ยวอย่างเรา ๆ ช่วงปลายฝนต้นหนาวแบบนี้ แม้ฝนจะโปรยปรายลงมาบ้าง อากาศจะเย็นลงสักหน่อยก็ไม่ใช่อุปสรรคที่ไปเที่ยวแต่อย่างใด เราลองขึ้นเหนือไปรับไอเย็น “เล่นน้ำตก ชมภูสูง ดูหมอกสวย” กันที่ “นพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่” กันดีกว่าปักหมุดปลายทาง “อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์”  แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่จะถูกบันทึกไว้ในความทรงจำ

แหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่ควรไปเยี่ยมเยือน ได้แก่

 น้ำตกแม่ยะ เป็นน้ำตกขนาดใหญ่และสวยที่สุดติดอันดับต้น ๆ ของประเทศไทยเลยทีเดียว น้ำตกแม่ยะเกิดจากลำห้วยแม่ยะ มีประมาณ 30 ชั้น สูงกว่า 260 เมตร ในฤดูฝนปริมาณน้ำมากสายน้ำจะไหลลงหน้าผาเป็นม่านน้ำกว้างราว 100 เมตร เกิดละอองน้ำสีขาวกระจายเหมือนหมอกสวยงามเกินบรรยาย ส่วนในฤดูแล้งน้ำอาจจะน้อยแต่ก็ใสสะอาดจนสามารถมองเห็นพื้นทรายด้านล่าง บริเวณน้ำตกจะร่มรื่นไปด้วยป่าไม้เบญจพรรณนานาชนิดมองดูสบายตา นักท่องเที่ยวสามารถกางเต้นท์พักแรมบริเวณน้ำตกแม่ยะได้อีกด้วย

น้ำตกวชิรธาร เป็นน้ำตกขนาดใหญ่และสวยงามอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งเกิดจากน้ำจากลำห้วยแม่กลางอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 750 เมตร ตัวน้ำตกมีเพียง 1 ชั้น สูงราว 70 เมตร โดยมีจุดชมวิวโดยรอบเราจะมองเห็นรุ้งกินน้ำในระยะใกล้เพียงแค่เอื้อมมือจากละอองน้ำที่กระทบกับแสงอาทิตย์ ฝั่งตรงกันข้ามกับน้ำตกมีหน้าผาสูงชัน เรียกว่า “ผาม่อนแก้ว” หรือ “ผาแว่นแก้ว”

พระธาตุนภเมทนีดลและพระธาตุนภพลภูมิสิริ เป็นพระธาตุที่ทหารอากาศและประชาชนร่วมกันสร้างถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ เราจะเห็นวิวทิวทัศน์ของดอยอินทนนท์ได้อย่างชัดเจนในบริเวณนี้ องค์พระมหาธาตุประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและพระพุทธรูปบูชา ดังนั้น อย่าลืมกราบไหว้บูชาและระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของทั้ง 2 พระองค์เพื่อเป็นศิริมงคลต่อตนเองและครอบครัว

กิ่วแม่ปาน เป็นเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติระยะสั้นประมาณ 3 กิโลเมตร ซึ่งสามารถเดินได้ในวันเดียว ระหว่างทางมีจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้น และทะเลหมอกที่สวยงามของดอยอินทนนท์อีกแห่งหนึ่ง เส้นทางจะเดินผ่านป่าดิบเขาต้นไม้ถูกปกคลุมด้วยมอสสีเขียวและเฟิร์นหลากหลายชนิด ในฤดูฝนมีอากาศหนาวเย็นและถูกปกคลุมด้วยหมอกสีขาวทั่วทั้งผืนป่า เราจะเดินขึ้นเขาจนสุดปลายทางที่ทะลุออกไปยังทุ่งหญ้ากว้างของสันเขากิ่วแม่ปาน ถ้าโชคดีเราจะเห็นดอกสีแดงสดของ“ต้นกุหลาบพันปี” ที่ตัดกับผืนป่าสีเขียวดูสวยแปลกตาจนทำให้ลืมความเหนื่อยไปเลยทีเดียว

ยอดดอยอินทนนท์  เป็นยอดเขาสูงที่สุดในประเทศไทยที่ต้องไปเยือนสักครั้ง เราจะสัมผัสกับธรรมชาติที่แท้จริงของป่าดิบดึกดำบรรพ์ ที่ยอดดอยมีแอ่งน้ำขนาดใหญ่น้ำขังตลอดปี และมีหินก้อนใหญ่รูปทรงคล้ายกา เรียกว่า “อ่างกาหลวง” บริเวณนี้เป็นพื้นที่ศึกษาธรรมชาติด้วย ที่สำคัญอย่าลืมแวะสักการะสถูปอัฐิของเจ้าอินทวิชยานนท์ เจ้าผู้ครองเชียงใหม่องค์ที่ 7 และเป็นที่มาของชื่อ “ดอยอินทนนท์” ด้วย

สำหรับใครที่ชอบเที่ยวน้ำตก เดินเขาไปชมทะเลหมอก ก็นับว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีสำหรับครอบครัวและเพื่อนฝูงเพราะปลายปีมีวันหยุดยาวหลายวันลองวางแผนเดินทางกันให้ดีมีกิจกรรมสนุก ๆ มากมายรอเราอยู่ที่ปลายทาง “อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์”

เดินป่าวัดใจ พิชิตหนอกวัวที่จังหวัดพะเยา

ในประเทศไทยเองมีภูมิทรรศย์ทางธรรมชาติหลากหลาย โดยสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการพิชิตยอดเขาทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นภูสอยดาว ภูกระดึง หรือยอดเขา ยอดดอยต่าง ๆ ในแถบภาคเหนือของไทยก็มีให้พิชิตจำนวนมาก ยกตัวอย่างเช่น ดอยหนอก จังหวัดพะเยา เป็นที่ที่รอคอยผู้ที่ชื่นชอบการเดินป่า ปีนเขา ให้ไปพิชิตด้วยตัวเอง หากใครที่สนใจอยากไปเที่ยวต้องแจ้งเจ้าหน้าประจำศูนย์ก่อน ไม่สามารถเดินขึ้นไปด้วยตัวเองได้ โดยเส้นทางการเดินทางที่ต้องเงยหน้ามองท้องฟ้าอยู่ตลอดเวลาและเส้นทางเดินยังต้องเดินบนหินชัน ๆ กับป่าชื้น ๆ ตลอดระยะทางกว่า 10 กิโลเมตร แต่จะมีจุดระยะให้พักระหว่างทางได้ แต่หากขึ้นมาถึงยอดดอยได้ จะได้พบกับหลวงพ่อทันใจประดิษฐานอยู่ด้านหน้าของดอยหนอก จากนั้นต้องไต่สลิงขึ้นไปอีกจึงจะถึงดอยหนอก เมื่อขึ้นไปถึงจะได้สัมผัสกับวิวภูเขาสูงแบบ 360 องศา และคงหายเหนื่อยในทันที

สำหรับดอยหนอกนั้นมีลักษณะที่คล้ายกันกับหนอกบนสันหลังของวัว มีความโดดเด่นในแง่รูปลักษณ์ที่เป็นที่สะดุดตาเป็นอย่างมาก และที่สำคัญดอยหนอกยังเป็นเขตติดต่อระหว่างจังหวัดพะเยาและจังหวัดลำปาง ตั้งอยู่บนดอยหลวง สำหรับใครที่ไปทางฝั่งพะเยาสามารถที่จะเลือกลงทางฝั่งลำปางได้ แต่ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 ฝั่งเพื่อจะจัดเตรียมอำนวยความสะดวก และสามารถนำทางได้ เช่นเดียวกันหากเดินทางมาจากฝั่งลำปางสามารถขอลงทางฝั่งพะเยาได้เช่นกัน ด้านบนดอยนั้นยังมีพระธาตุดอยหนอกที่มีอายุราว 100 ปีมาแล้ว ภายในมีรอยพระพุทธบาทให้กราบสักการะได้อิ่มบุญกันก่อนกลับอีกด้วย และนอกจากนี้ยังสามารถชมวิวของควานพะเยา วิวจังหวัดเชียงใหม่ และวิวจังหวัดเชียงรายได้อีกด้วย เรียกได้ว่ามาที่เดียวเที่ยวได้ 4 จังหวัดกันไปเลย และหากโชคดีก็จะได้พบกับทะเลหมอกได้อีกด้วย

สำหรับการเดินทางขึ้นไปพิชิตดอยหนอกนั้นสามารถกางเต้นท์นอนพักแรมได้ เนื่องจากเป็นเส้นทางติดต่อกันกับดอยหลวง ซึ่งอยู่สูงกว่าไปว่า จะเลือกเที่ยวที่ใดก่อนก็สามารถทำได้อย่างที่ต้องการ สำหรับการเดินทางจะมีการใช้รถอีแต๊น ก่อนระยะหนึ่ง โดยรถอีแต๊นเป็นบริการจ้างจากชาวบ้านที่เตรียมไว้คอยให้ความอำนวยสะดวกแก่นักท่องเที่ยวผู้พิชิตทุกท่าน และมีบริการหาบของสัมภาระให้บริการด้วย การท่องเที่ยวดอยหนอกนั้นไม่เหมาะอย่างยิ่งกับผู้ที่มีความอดทนต่ำ ไม่ได้มีใจรักในธรรมชาติ เพราะต้องเผชิญกับภัยธรรมชาติที่ไม่คาดคิด เนื่องจากปัจจุบันฤดูกาลมีความเปลี่ยนแปลงบ่อย อีกทั้งสัตว์ขนาดเล็ก และแมลงรบกวนที่น่าลำคราญอย่างยุ่งยังมีเป็นจำนวนมาก แต่หากทนได้คุณจะได้พบดวงดาวทามกลางสายหมอกบนท้องฟ้า และดวงดาวระยิบบนพื้นดินที่คุณจะต้องประทับใจไม่รู้ลืม

 

ทองคำหลวงสีดำ ไข่ปลาสุดล้ำค่าจากจังหวัดเชียงใหม่

                ภัยแล้งและอุทกภัย ดูจะเป็นปัญหาที่หนักหนาสำหรับประเทศไทยที่เกิดขึ้นในทุก ๆ ปี แต่ชาวต่างชาติจำนวนมากก็ยังว่าเมืองไทยเป็นเมืองโชคดีที่ไม่หนาวจนแหล่งน้ำในธรรมชาติกลายเป็นน้ำแข็ง ซึ่งจะส่งผลต่อการเพาะปลูกพืชผลทางการเกษตร การเพาะเลี้ยงสัตว์ และการประมง ด้วยอากาศที่เหมาะสมแบบนี้ จึงทำให้คนในประเทศไทยมีอาหารไว้ล่อเลี้ยงได้อย่างไม่ขาดแคลนหรืออดอยาก อย่างคำกล่าวที่ว่า ประเทศไทยนั้นอุดมสมบูรณ์ในน้ำมีปลาในนามีข้าว แปลว่า ประเทศไทยสามารถอยู่ได้โดยไม่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีใด ๆ อยู่กันได้ด้วยตนเองมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ และในปัจจุบันนี้เองที่พบว่าประเทศไทยสามารถเพาะปลูกพืชต่างประเทศได้มากมาย หลากหลายขึ้นกว่าแค่พืชในท้องถิ่นเดิม อย่างเช่น องุ่น สตอเบอร์รี่ บล็อกโคลี พลับ สาลี กีวี ราสพ์เบอร์รี่ พีช อโวคาโด แครรอท ลูกฟลิกหรือมะเดื่อฝรั่ง ถือเป็นการสร้างรายได้เพิ่มให้แก่เกษตรกรชาวไทย นอกจากนั้นยังมีการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำทางประมง ที่ให้ผลผลิตเป็นทองคำสีดำที่มีค่า หรือที่เรียกกันว่า “คาเวียร์”

ไข่ปลาคาเวียร์แท้จริงแล้วไม่ได้มาจากปลาคาเวียร์ แต่มาจากปลาสเตอเจียน หรือ sturgeon เป็นปลาที่มีถิ่นกำเนิดที่แถบทะเลแคสเปียน เกิดในแหล่งน้ำจืด เมื่อโตพอก็จะว่ายออกสู่ทะเล และถึงฤดูวางไข่ก็จะกลับมาวางไข่ที่แหล่งน้ำจืด คล้ายกันกับปลาแซลมอล โดยปลาสเตอเจียนถูกนำมาเพาะเลี้ยงที่โครงการพระราชดำริบ้านเล็กในป่าใหญ่ ตำบลเมืองแหง อำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่ สร้างมูลค่าเพิ่มได้อย่างมหาศาล โดยไข่ปลาคาเวียร์ขนาดบรรจุ 100 กรัม จำหน่ายในราคา 5,000 บาท และกระปุกเล็กขนาด 25 กรัม ราคา 1,300 บาท แต่ยังนับว่าเป็นราคาที่ไม่แพงไปเลยสำหรับสินค้าคุณภาพในโครงการหลวงอีกหนึ่งรายการ หากเทียบกับการนำเข้า ซึ่งคุณภาพไม่แตกต่างกัน

โดยประชาชนทั่วไป หากสนใจเข้าชม สามารถเยี่ยมชมฟาร์มตัวอย่างได้ในวันและเวลาราชการ และทางโครงการยินดีจะเผยแพร่ความรู้แก่เกษตรกรรายอื่น ๆ ที่สนใจอีกด้วย สำหรับท่านได้ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติและรักการช้อปปิ้งสินค้าคุณภาพเป็นชีวิตจิตใจ จังหวัดเชียงใหม่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติในโครงการพระราชดำริอื่น ๆ อีกจำนวนมาก และมีสินค้าโครงการหลวงภายใต้แบรนด์ ศิลปกรจำหน่ายอีกมากมาย

หนึ่งสิ่งที่มักมาคู่กันกับการท่องเที่ยว คือการซื้อของฝากกลับไปให้คนที่บ้านหรือที่ทำงาน การได้เดินเลือกซื้อสินค้า และผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่มีคุณภาพและมีคุณค่ากับการมาเยือนสถานที่นั้น ๆ ย่อมเกิดผลประโยชน์กับทั้งตัวผู้ให้ ผู้รับ และผู้จำหน่าย สินค้าในโครงการหลวงหลายรายการเป็นสินค้าที่มีคุณภาพดี ทั้งยังช่วยอุดหนุนเกษตรกรให้มีกำลังใจในการผลิตสินค้าที่ดีต่อไป

 

ท่องเที่ยวแกรนด์แคนยอนเมืองไทย จากแพร่ถึงน่าน

สถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติในประเทศไทยเองมีเป็นจำนวนมาก เนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความงดงามทางธรรมชาติที่สมบูรณ์ โดยจะดูได้จากประเทศไทยมีอุทยานและวนอุทยานจำนวนมาก พื้นที่ทางแถบภาคเหนือนี้เองก็มีแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ อุทยานแห่งชาติน้ำตกชาติตระการ อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว แต่ที่จะกล่าวถึงในที่นี้เป็นอุทยานของธรรมชาติที่ต่างกันออกไปเล็กน้อย คือ แกรนด์แคนยอนในแถบภาคเหนือของประเทศไทย อย่างแพะเมืองผี วนอุทยานแห่งชาติแพะเมืองผีจังหวัดแพร่ และฮ่อมจ๊อม อุทยานแห่งชาติศรีน่าน จังหวัดน่าน

ทั้งแพะเมืองผี และฮ่อมจ๊อมเกิดจากการที่แหล่งน้ำในฤดูน้ำหลาก กัดเซาะหินทรายตามธรรมชาติเป็นเวลานาน จนทำให้เกิดเนินดินทราย และเสาดินจำนวนมาก ๆ แต่ละมุมของพื้นที่มีความแตกต่างกันออกไปตามกาลเวลา สถานที่ดังกล่าวมาทั้ง 2 สถานที่มีความงานทางธรณีวิทยาเป็นอย่างมาก นับเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สามารถใช้ศึกษาลักษณะทางปฐพีวิทยาที่จัดว่ามีความงดงามไม่แพ้แกรนด์แคนยอนในต่างประเทศเลยก็ว่าได้

โดยแพะเมืองผีนั้นมีอายุมานานตั้งแต่ยุคควาเทอร์นารี (Quaternary) หรือราว ๆ 10,000-30,000 มาแล้ว ความหมายของคำว่า แพะเมืองผีคือ ป่าละเมาะที่มีความเงียบสงบไร้ผู้คน นอกจากนี้ยังมีตำนานอีกว่า มีหญิงชราหาของป่าขาย วันหนึ่งเดินไปพบทองคำกลางป่า แต่ด้วยความชราทำให้นำทองกลับมาไม่ได้ เขาจึงไปเรียกคนมาช่วยในวันรุ่งขึ้น หญิงชรากลับไม่พบทองพบเพียงรอยเท้าเดินมุ่งหน้ามายังแพะเมืองผีในปัจจุบัน ความลึกลับที่น่าหลงใหลทำให้มีผู้คนไปเยี่ยมชมสถานที่ดังกล่าวจำนวนมาก แต่ยังมีคนส่วนน้อยที่จะรู้จักฮ่อมจ๊อม

ฮ่อมจ๊อมนั้นอยู่ไม่ไกลจากจังหวัดแพร่มากนัก หากเดินทางไปเที่ยวชมแพะเมือผีจังหวัดแพร่แล้ว สามารถเดินทางไปเที่ยวต่อที่จังหวัดน่านได้ไม่ยาก อีกทั้งจังหวัดน่านเองก็มีความสวยงาม เงียบสงบ มีใครบางคนเคยบอกไว้ว่า จังหวัดน่านนาน ๆ เจอกัน เนื่องจากจังหวัดน่านเป็นจังหวัดที่ไม่ค่อยมีคนผ่านมาแวะเที่ยวชมมากนัก และไม่ใช่จังหวัดที่จะผ่านไปเที่ยวจังหวัดอื่นต่อไป ฮ่อมจ๊อม เป็นคำที่ชาวบ้านใช้เรียกพื้นที่ดังกล่าว และฮ่อมจ๊อมนี้เองยังเคยเป็นคอกเสือ โดยไล่ต้อนเสือไปยังคันสันดินที่ธรรมชาติ และปลิดชีวิตสัตว์ร้าย ณ คอกเสือนั้น นับเป็นเชาว์ปัญญาชาวบ้านที่ใช้ชัยภูมิพื้นที่ ที่คุ้นชินในการแก้ปัญหาสัตว์เลี้ยงอย่าง ม้า วัว ควายถูกจับกิน

อย่างไรก็ดีการท่องเที่ยวในทุกสถานที่มีความพิเศษที่แตกต่างกันออกไป ทั้งจังหวัดน่านและจังหวัดแพร่มีวัฒนธรรมดำเนินชีวิตที่น่าสนใจไม่แพ้กัน การไปท่องเที่ยวในทั้ง 2 จังหวัดจะทำให้ได้พบประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมอย่างที่หาคำใดมาพรรณนาไม่ได้เลยนอกจากการได้สัมผัสด้วยตัวเอง

 

ฮานามิ ณ ภูลมโล ความงามรับต้นปี ทุกพื้นที่เป็นสีชมพู

“ฮานามิ” คำที่มาจากภาษาญี่ปุ่น คือ การชมดอกไม้ร่วมกันกับคนที่เรารัก อย่างเพื่อน ครอบครัว ร่วมรับประทานอาหาร ชมความงามของดอกไม้ไปพลางพูดคุยสรวนแสเฮฮากัน ซึ่งตลอดปีจะมีช่วงที่ดอกไม้ผลิบานสะพรั่งเหมาะแก่การชื้นชม การฮานามิ ไม่ได้ถูกจำกัดว่าต้องชมเฉพาะดอกซากุระเท่านั้น ดอกไม้ชนิดอื่น ๆ ก็ถือเป็นการฮานามิเช่นกัน

ความสุข ความสนุกของการชมดอกไม้บานนั้นยังสามารถทำได้ในหลายพื้นที่ หลายจังหวัดในประเทศไทย นับเป็นโชคดีที่ประเทศไทยสามารถเพาะปลูกพืชได้หลากหลายชนิด ไม่ใช้แค่เพียงพรรณไม้เมืองร้อนเท่านั้น แต่พรรณไม้เมืองหนาว รวมทั้งพันธุ์ไม้พื้นถิ่นที่ชอบอากาศเย็น ประเทศไทยเองก็มีความงานให้ชมได้ตลอดทั้งปี อย่างเช่น ต้นพญาเสือโคร่งที่มีความงามไม่แพ้ซากุระ และเหมาะกับฮานามิ ซึ่งได้มีการทำการเพาะปลูกจำนวนมากในอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าก็น่าชื่นชมเหมือนกัน

ช่วงต้นปีระหว่างเดือนมกราคม จนถึงเดือนแห่งความรักกุมภาพันธ์ ณ ภูลมโล อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า  ตำบลเนินเพิ่ม อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก จะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากไปเที่ยวชมดอกพญาเสือโคร่ง ซึ่งมีความงามเหมือนได้ไปชมดอกวากุระที่ญี่ปุ่น อีกทั้งบรรยากาศยอดภูช่วงต้นปียังทำให้รู้สึกดีเหมือนได้เดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ โดยต้นพญาเสือโคร่งนั้นได้มีการเพาะปลูกด้วยความร่วมมือกัน ระหว่างเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติและชาวบ้าน บนเนื้อที่กว่า 2,000 ไร่ มีด้วยกัน 4 โซน มีสินค้าจำหน่ายจากชาวบ้าน เป็นพืชผักเมืองหนาวที่ชาวบ้านเพาะปลูกได้เองในพื้นที่ อย่างเช่น แครอท กระหล่ำดอก บล็อกโคลี และผลไม้ยอดฮิตอย่างสตอเบอร์รี่ก็มี และนอกจากนี้ยังมีรถบริการรับส่งระหว่างขึ้นภูจากชาวบ้าน นับเป็นการส่งเสริมรายได้ในกับชาวบ้าน ชาวเขาในพื้นที่ เป็นการท่องเที่ยวที่ให้ความสุขสดชื้นรับต้นปี

สำหรับการไปเที่ยวตามอุทยานต่าง ๆ เองในทุกพื้นที่ในประเทศไทยเองมักจะมีร้านค้าขายอาหารและเครื่องดื่มของชาวบ้านค่อยให้บริการความอิ่มอร่อย แก่นักท่องเที่ยวที่หิวกระหาย มีความต้องการที่อยากเติมเต็มทั้งทางจิตใจและอิ่มท้อง โดยที่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าเองก็เช่นเดียวกัน มีร้านค้าชาวบ้านไว้บริการเหล่านักท่องเที่ยวตลอดทาง เป็นเรื่องดีที่เงินได้เกิดการหมุนเวียนในประเทศ หากแต่สิ่งที่มักมากกับการกินอาหารคือ ขยะ พลาสติก ขวดแก้ว ซึ่งหลายที่ในประเทศไทยมักจะปล่อยหน้าที่เก็บกวาดให้เจ้าหน้าที่ และชาวบ้านในพื้นที่ อยากจะให้นักท่องเที่ยวนำวัฒนธรรมดี ๆ อย่างการฮานามิของชาวญี่ปุ่นมาปรับใช้คือ การรักษาความสะอาด เป็นชมดอกไม้ด้วยการอนุรักษ์ ไม่เด็ดดอกหรือหักกิ่งก้านของดอกไม้  เพราะความงามของดอกไม้จะงามที่สุดตรงที่มันยังอยู่กับต้น และค่อยเคลื่อนคล้อยลงสู้พื้นอย่างสวยงามตามธรรมชาติของมัน

 

อาบออนเซ็นไม่ต้องไปไกลถึงญี่ปุ่น ที่อำเภอฝาง เชียงใหม่บ้านเราก็มี

ไม่ใช่เพียงญี่ปุ่นเท่านั้นที่มีแหล่งอาบน้ำร้อนตามธรรมชาติ ในประเทศไทยเองก็มีแหล่งอาบน้ำพุร้อนหลายที่ด้วยกัน โดยวัฒนธรรมการอาบน้ำพุร้อน บ่อน้ำร้อนนั้นทางเหนือเรียกว่าโป่งน้ำร้อน การอาบออนเซ็นนั้นมีข้อดีหลายประการ อย่างเช่น ช่วยในเรื่องการหมุนเวียนระบบเลือด ผิวพรรณที่สดใสขึ้น เนื่องจากการอาบน้ำพุร้อนจากแหล่งธรรมชาติมีแร่ธาตุที่เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยในเรื่องสุขภาพ ชาวญี่ปุ่นจำนวนมากจึงนิยมการแช่น้ำพุร้อนเป็นประจำ ส่งผลให้อัตราเฉลี่ยอายุของชาวญี่ปุ่นมีอายุที่ยืนยาว อีกทั้งวัฒนธรรมชาวญี่ปุ่นยังนิยมอาบน้ำรวมกัน หรืออาบเป็นครอบครัว เพื่อสร้างสัมพันธ์อันดีระหว่างกันทั้งในกลุ่มเพื่อน และความอบอุ่นแบบครอบครัว อาจฟังดูขัดหูของชาวไทย เพราะประเทศไทยมักไม่นิยมอาบน้ำร่วมกัน อีกทั้งยังพบกับสภาพอากาศที่ร้อนปรอทแตก แต่ถ้าหากรู้จักอำเภอฝางจะรู้ดีว่าอำเภอดังกล่าวมีสภาพอากาศที่หนาวเกือบตลอดปี การอาบออนเซ็นจึงสามารถอาบได้เกือบตลอดทั้งปีที่อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่

การใช้งบจำนวนมาก ๆ ในการบินข้ามน้ำข้ามทะเลไปถึงญี่ปุ่นอาจดูเป็นเรื่องใหญ่สำหรับบางคน แถมยังต้องลางานหลาย ๆ วัน หากจะไปอาบออนเซ็นเพียงอย่างเดียวคงจะไม่คุ้มแน่ จึงอยากเชิญชวนให้มาเที่ยวในประเทศไทย ที่มีแหล่งอาบน้ำพุร้อนหลายที่ สำหรับโป่งน้ำร้อนอำเภอฝางนั้นเป็นแหล่งน้ำพุร้อนที่ตั้งอยู่ทามกลางธรรมชาติสีเขียวชอุ่ม ล้อมรอบด้วยต้นไม้จำนวนมาก ณ อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก โดยทางอุทยานเองได้มีบริการห้องอาบน้ำแร่ และห้องอบไอแร่ให้บริการในราคาไม่แพง และมีห้องอาบน้ำแยกเป็นส่วนตัว ภายหลังการอาบน้ำสามารถมาลวกไข่รับประทานได้ โดยทางอุทยานก็มีไข่จำหน่ายในราคาไม่แพง หรือจะเตรียมมาเองก็ได้

นอกจากนี้ยังได้ตื่นตาตื่นใจกับบ่อน้ำพุร้อนที่มีอุณหภูมิร้อนมากถึง 80-100  องศาเซลเซียส เหมาะกับการเก็บภาพบรรยากาศทั้งธรรมชาติสวย ๆ บนเส้นทางศึกษาธรรมชาติ การอาบน้ำร้อน และชมน้ำพุร้อนที่นี่สามารถทำได้ทุกฤดูไม่ใช่เพียงฤดูหนาวเท่านั้น

ความสุขของการไปเที่ยวโป่งน้ำพุร้อน หรือการไปอาบออนเซ็นแบบญี่ปุ่นนั้น คุณค่าของมันไม่ได้อยู่ที่สถานที่ที่ไป หากอยู่ที่การได้ไปกับคนที่เรารัก ครอบครัว กับเพื่อนสนิท ทำให้ได้ใช้เวลาร่วมกัน และยังเป็นการพาตัวเองออกไปพบปะผู้คนใหม่ ๆ สถานที่ใหม่ ๆ อย่างชาวบ้าน ชาวเขาในพื้นที่ ที่มักจะมีสินค้าพื้นเมืองมาขาย อีกทั้งอำเภอฝาง ยังมีเขตติดต่อกับแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกมาก นับว่าเป็นการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพทั้งทางกาย และทางใจ กระเป๋าตัง

 

ทะเลหลวง แก้มลิง แหล่งท่องเที่ยว เครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจชาวสุโขทัย

                หากจะนึกถึงแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดสุโขทัย คงจะหนีไม่พ้นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์อย่างอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย และอุทยานประวัติศาสตร์เมืองศรีสัชนาลัยนาลัย ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ ของนักท่องเที่ยวทั้งใน และต่างประเทศ ที่ชื้นชอบการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ทั้งนี้เนื่องจากสุโขทัยเป็นราชธานีที่มีความเก่าแก่กว่า 700 ปี ชาวสุโขทัยมีจิตศรัทธาทางศาสนามีตั้งแต่สมัยโบราญ และมีการอนุรักษ์ประเพณีทางศาสนาไว้หลายประเพณี อย่างเช่น ประเพณีลอยโคม เผาเทียน เล่นไฟ จึงถือว่าเป็นอีกจังหวัดที่มีความน่าท่องเที่ยวในภาคเหนือตอนล่าง และอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพมากนัก แต่อย่างไรก็ดีสุโขทัยยังเป็นอีกจังหวัดที่มีพื้นที่เป็นที่ราบลุ่ม เมื่อถึงฤดูน้ำหลากน้ำจากแม่น้ำยมจะท่วมในหลายอำเภอของจังหวัด และเมื่อถึงคราวฤดูแล้ง น้ำก็จะไม่มีสำหรับการทำกสิกรรม เกิดความเดือดร้อนกับชาวบ้านในหลายพื้นที่ของจังหวัด ทำให้มีการจัดการบริหารจัดการน้ำโดยการทำแก้มลิง

จากแนวคิดพระราชดำริการสร้างพื้นที่รับน้ำในยามน้ำมาก และกักเก็บน้ำไว้ใช้ยามเกิดภัยแล้ง ทำให้นายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร และสหกรณ์ เริ่มโครงการพัฒนาแหล่งน้ำในจังหวัดสุโขทัย และสร้างแก้มลิง ทุ่งทะเลหลวงขึ้นตั้งแต่ปี 2545 และด้วยเหตุนี้ชาวบ้านกว่า 843 หมู่บ้านจึงร่วมกันพัฒนาแหล่งเก็บน้ำดังกล่าว ให้เป็นศูนย์รวมทางจิตใจของคนภายในจังหวัดสุโขทัย โดยสร้างเป็นเนินรูปใบโพธิ์กลางทุ่งทะเลหลวง และประดิษฐถาน พระพุทธรัตนสิริสุโขทัย ณ มณฑปจตุรมุข เพื่อเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวทางจิตใจของชาวบ้าน และยังเป็นที่ทำกิจกรรมทางศาสนาในงานบุญประเพณีต่าง ๆ ทั้งยังช่วยสนับสนุนให้เกิดการท่องเที่ยวในท้องถิ่น ทำให้คนในจังหวัดเกิดการสร้างรายได้ ได้ขายงานศิลปะที่มีชื่อเสียงอย่าง เครื่องสังคโลก หรืองานเครื่องเงินที่มีชื่อเสียงของจังหวัดทำสังคมให้มีความเจริญรุ่งเรืองมากยิ่งขึ้น

นอกเหนือจากการน้อมนำพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวราชการที่ 9 เรื่องการจัดการปัญหาภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างน้ำท่วม ฝนแล้ง และการร่วมแรงร่วมใจสร้างเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจทางศาสนาให้กับชาวสุโขทัย ทุ่งทะเลหลวงยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกสถานหนึ่งของจังหวัดสุโขทัย และมีผู้มาชื้นชมธรรมชาติที่เกิดจากฝีมือมนุษย์มากมายไม่ใช่แค่ช่วงเทศกาล สำหรับนักท่องเที่ยวที่รักในการถ่ายภาพแนว Bird eye (ภาพมุมสูง) ไม่ว่าจะถ่ายด้วยกล่องธรรมดาจากเครื่องบิน หรือการใช้เทคโนโลยีที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างโดรนบินเหนือบริเวณทุ่งทะเลหลวงจะทำให้เห็นรูปหัวใจกลางเกาะ และในแต่ละช่วงเวลายังให้อารมณ์ของภาพที่แตกต่างกันออกไปเป็นอีกกิจกรรมการผ่อนคลายที่สามารถทำได้ทุกเมื่อที่ไปเที่ยวชม ไม่จำกัดแค่ช่วงเทศกาล เหนือสิ่งอื่นใดความประทับใจของการมาเยือนไม่ใช่เพียงความสวยงามของสถานที่ หากแต่เป็นวัฒนธรรม การถ่ายทอดวิถีการใช้ชีวิตของคนมนชุมชนที่มีความเป็นมิตรซึ่งเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของการท่องเที่ยวภายในประเทศไทย

 

ม่อนหยุนไหล ที่เที่ยวน่าหลงใหล บนปลายยอดเขา

หากพูดถึงสภานที่ท่องเที่ยวปลายฝนต้นหนาว จะต้องไม่พลาดสถานที่ท่องเที่ยวบนยอดเขาตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ทั้งทางภาคเหนือหรือภาคอีสาน แต่ยังมียอดเขาอีกที่ ที่อาจจะไม่เป็นที่นิยมมากนัก แต่รับรองได้ว่าหากได้มาเยือนแล้ว รับรองว่าคุณจะไม่อยากกลับเลยล่ะ

Continue reading “ม่อนหยุนไหล ที่เที่ยวน่าหลงใหล บนปลายยอดเขา”