“เล่นน้ำตก ชมภูสูง ดูหมอกสวย” กันที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่

เข้าสู่ไตรมาสสุดท้ายของปีแล้วผู้ที่นิยมเดินทางท่องเที่ยวอย่างเรา ๆ ช่วงปลายฝนต้นหนาวแบบนี้ แม้ฝนจะโปรยปรายลงมาบ้าง อากาศจะเย็นลงสักหน่อยก็ไม่ใช่อุปสรรคที่ไปเที่ยวแต่อย่างใด เราลองขึ้นเหนือไปรับไอเย็น “เล่นน้ำตก ชมภูสูง ดูหมอกสวย” กันที่ “นพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่” กันดีกว่าปักหมุดปลายทาง “อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์”  แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่จะถูกบันทึกไว้ในความทรงจำ

แหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่ควรไปเยี่ยมเยือน ได้แก่

 น้ำตกแม่ยะ เป็นน้ำตกขนาดใหญ่และสวยที่สุดติดอันดับต้น ๆ ของประเทศไทยเลยทีเดียว น้ำตกแม่ยะเกิดจากลำห้วยแม่ยะ มีประมาณ 30 ชั้น สูงกว่า 260 เมตร ในฤดูฝนปริมาณน้ำมากสายน้ำจะไหลลงหน้าผาเป็นม่านน้ำกว้างราว 100 เมตร เกิดละอองน้ำสีขาวกระจายเหมือนหมอกสวยงามเกินบรรยาย ส่วนในฤดูแล้งน้ำอาจจะน้อยแต่ก็ใสสะอาดจนสามารถมองเห็นพื้นทรายด้านล่าง บริเวณน้ำตกจะร่มรื่นไปด้วยป่าไม้เบญจพรรณนานาชนิดมองดูสบายตา นักท่องเที่ยวสามารถกางเต้นท์พักแรมบริเวณน้ำตกแม่ยะได้อีกด้วย

น้ำตกวชิรธาร เป็นน้ำตกขนาดใหญ่และสวยงามอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งเกิดจากน้ำจากลำห้วยแม่กลางอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 750 เมตร ตัวน้ำตกมีเพียง 1 ชั้น สูงราว 70 เมตร โดยมีจุดชมวิวโดยรอบเราจะมองเห็นรุ้งกินน้ำในระยะใกล้เพียงแค่เอื้อมมือจากละอองน้ำที่กระทบกับแสงอาทิตย์ ฝั่งตรงกันข้ามกับน้ำตกมีหน้าผาสูงชัน เรียกว่า “ผาม่อนแก้ว” หรือ “ผาแว่นแก้ว”

พระธาตุนภเมทนีดลและพระธาตุนภพลภูมิสิริ เป็นพระธาตุที่ทหารอากาศและประชาชนร่วมกันสร้างถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ เราจะเห็นวิวทิวทัศน์ของดอยอินทนนท์ได้อย่างชัดเจนในบริเวณนี้ องค์พระมหาธาตุประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและพระพุทธรูปบูชา ดังนั้น อย่าลืมกราบไหว้บูชาและระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของทั้ง 2 พระองค์เพื่อเป็นศิริมงคลต่อตนเองและครอบครัว

กิ่วแม่ปาน เป็นเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติระยะสั้นประมาณ 3 กิโลเมตร ซึ่งสามารถเดินได้ในวันเดียว ระหว่างทางมีจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้น และทะเลหมอกที่สวยงามของดอยอินทนนท์อีกแห่งหนึ่ง เส้นทางจะเดินผ่านป่าดิบเขาต้นไม้ถูกปกคลุมด้วยมอสสีเขียวและเฟิร์นหลากหลายชนิด ในฤดูฝนมีอากาศหนาวเย็นและถูกปกคลุมด้วยหมอกสีขาวทั่วทั้งผืนป่า เราจะเดินขึ้นเขาจนสุดปลายทางที่ทะลุออกไปยังทุ่งหญ้ากว้างของสันเขากิ่วแม่ปาน ถ้าโชคดีเราจะเห็นดอกสีแดงสดของ“ต้นกุหลาบพันปี” ที่ตัดกับผืนป่าสีเขียวดูสวยแปลกตาจนทำให้ลืมความเหนื่อยไปเลยทีเดียว

ยอดดอยอินทนนท์  เป็นยอดเขาสูงที่สุดในประเทศไทยที่ต้องไปเยือนสักครั้ง เราจะสัมผัสกับธรรมชาติที่แท้จริงของป่าดิบดึกดำบรรพ์ ที่ยอดดอยมีแอ่งน้ำขนาดใหญ่น้ำขังตลอดปี และมีหินก้อนใหญ่รูปทรงคล้ายกา เรียกว่า “อ่างกาหลวง” บริเวณนี้เป็นพื้นที่ศึกษาธรรมชาติด้วย ที่สำคัญอย่าลืมแวะสักการะสถูปอัฐิของเจ้าอินทวิชยานนท์ เจ้าผู้ครองเชียงใหม่องค์ที่ 7 และเป็นที่มาของชื่อ “ดอยอินทนนท์” ด้วย

สำหรับใครที่ชอบเที่ยวน้ำตก เดินเขาไปชมทะเลหมอก ก็นับว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีสำหรับครอบครัวและเพื่อนฝูงเพราะปลายปีมีวันหยุดยาวหลายวันลองวางแผนเดินทางกันให้ดีมีกิจกรรมสนุก ๆ มากมายรอเราอยู่ที่ปลายทาง “อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์”

ชวนเที่ยวเกาะเขาควาย ทะเลสวย น้ำใสที่ระนอง

                “ฟ้าสวย น้ำใส ทรายขาว คลื่นลมสงบ” นี่คงเป็นบรรยากาศทะเลในฝันของหลาย ๆ คน คงจะดีไม่น้อยถ้าในหนึ่งวัน จะได้มีเวลาพักผ่อนสัมผัสบรรยากาศริมทะเลสวย ๆ บรรยากาศแบบนั้นมีที่จังหวัดระนอง กับหมู่เกาะกำ โดยหมู่เกาะกำมีเกาะน้อยใหญ่อยู่รวม ๆ กันจำนวนมาก ตั้งอยู่บนอุทยานแห่งชาติแหลมสน และมีลักษณะที่เป็นทะเลแบบชายฝั่งจมตัว ทำให้มีแนวชายหาดทอดตัวยาว และยังเป็นอุทยานที่มีพรรณไม้และธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ อากาศไม่ร้อนมากเหมือนกับการไปเที่ยวทะเลที่อื่น ๆ บนอุทยานแหลมสนนั้นจะพบไม้สนจำพวกสนทะเล และพบพันธุ์ไม้อื่น ๆ เช่น หยีทะเล จิกทะเล หูกวาง เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีสัตว์ที่อาศัยอยู่ภายในเกาะ อย่างพวกลิง ค่าง หมูป่า อีเห็นอีกด้วย และหากจะกล่าวถึงไฮไลท์ของอุทยานแหลมสนคงต้องกล่าวถึง “อ่าวเขาควาย” อันโด่งดังนั่นเอง

อ่าวเขาควายตั้งอยู่บนอุทยานแหลมสน และอยู่ในหมู่เกาะกำ จังหวัดระนอง มีลักษณะเป็นรูปโค้งคล้ายเขาของควาย จึงเรียกกันว่าอ่าวเขาควาย เกาะกำนับเป็นหมู่เกาะทางตอนใต้ของประเทศไทยในฝั่งอันดามัน ที่มีความงดงามมาก ทั้งทะเลสวย น้ำใส บางพื้นที่ของเกาะมีหาดทรายสลับกับหินกลมมน และหาดทรายยังสีขาวละเอียดเนียนตลอดแนวสน ที่มองแล้วให้ความรู้สึกสบายตา จะเดินเล่น ทำกิจกรรม หรืออาบแดดก็ยังได้ โดยเฉพาะเมื่อถึงเวลาพระอาทิตย์ตกดิน ให้ความรู้สึกโรแมนติกแบบพิเศษ เหมาะกับคู่รักที่อยากไปสวีทหรือขอแต่งงานกันริมทะเลได้เลย และยังสามารถชมสีสันของท้องฟ้าที่กำลังค่อยเปลี่ยนสีไปเรื่อย ๆ ก่อนพระอาทิตย์จะลาลับไป

แต่ถ้าหากเป็นสายแฮงค์เอาท์จะไปจัดปาร์ตี้ละก็ ไม่แนะนำเลย เพราะบนเกาะไม่เหมาะกับการจัดงานใด ๆ เนื่องจากไม่มีร้านค้าหรือที่พักให้พักแรม หากต้องการพักสามารถพักได้ในส่วนของที่พักของอุทยานแหลมสน เนื่องจากระยะทางในการไปกลับแต่ละเกาะกับอุทยานใช้เวลาไม่นานมากนัก สามารถไปกลับได้ในหนึ่งวันได้ โดยหากคุณเช่าเรือของชาวบ้าน ก็สามารถบอกให้เตรียมอาหารไว้ให้ได้ ซึ่งก็ต้องมีค่าใช้จ่ายเป็นธรรมดา แต่ก็ไร้กังวลเพราะชาวบ้านทุกคนเป็นกันเอง ให้บริการที่นับว่าค่าใช้จ่ายไม่สูงมากนัก ยิ่งหากเทียบกับภาพบรรยากาศที่จะได้เจอ เรียกได้ว่าจ่ายพันได้คืนหมื่นแน่นอน

สำหรับใครที่สนใจอยากไปเที่ยวอ่าวเขาควาย นอกจากจะมีอ่าวสวย ๆ ให้ได้ชมความงามแล้ว ยังมีเกาะอื่น ๆ ที่น่าไปเยือนอีกหลายเกาะเช่น เกาะค้างคาว หาดบางเบน เกาะกำใหญ่ เกาะกำหนุ่ย หรือเกาะญี่ปุ่น ก็เป็นเกาะที่น่าท่องเที่ยวเช่นกัน คงคุ้มค่ากับการทำงานเหนื่อยมาทั้งปีอย่างแน่นอน หากได้ชมทะเลสวย  ๆ เล่นน้ำใส ๆ และคงไม่มีคำไหนบรรยายได้ดีไปกว่าการได้ไปเยี่ยมชมด้วยตัวเอง

 

เดินป่าวัดใจ พิชิตหนอกวัวที่จังหวัดพะเยา

ในประเทศไทยเองมีภูมิทรรศย์ทางธรรมชาติหลากหลาย โดยสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการพิชิตยอดเขาทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นภูสอยดาว ภูกระดึง หรือยอดเขา ยอดดอยต่าง ๆ ในแถบภาคเหนือของไทยก็มีให้พิชิตจำนวนมาก ยกตัวอย่างเช่น ดอยหนอก จังหวัดพะเยา เป็นที่ที่รอคอยผู้ที่ชื่นชอบการเดินป่า ปีนเขา ให้ไปพิชิตด้วยตัวเอง หากใครที่สนใจอยากไปเที่ยวต้องแจ้งเจ้าหน้าประจำศูนย์ก่อน ไม่สามารถเดินขึ้นไปด้วยตัวเองได้ โดยเส้นทางการเดินทางที่ต้องเงยหน้ามองท้องฟ้าอยู่ตลอดเวลาและเส้นทางเดินยังต้องเดินบนหินชัน ๆ กับป่าชื้น ๆ ตลอดระยะทางกว่า 10 กิโลเมตร แต่จะมีจุดระยะให้พักระหว่างทางได้ แต่หากขึ้นมาถึงยอดดอยได้ จะได้พบกับหลวงพ่อทันใจประดิษฐานอยู่ด้านหน้าของดอยหนอก จากนั้นต้องไต่สลิงขึ้นไปอีกจึงจะถึงดอยหนอก เมื่อขึ้นไปถึงจะได้สัมผัสกับวิวภูเขาสูงแบบ 360 องศา และคงหายเหนื่อยในทันที

สำหรับดอยหนอกนั้นมีลักษณะที่คล้ายกันกับหนอกบนสันหลังของวัว มีความโดดเด่นในแง่รูปลักษณ์ที่เป็นที่สะดุดตาเป็นอย่างมาก และที่สำคัญดอยหนอกยังเป็นเขตติดต่อระหว่างจังหวัดพะเยาและจังหวัดลำปาง ตั้งอยู่บนดอยหลวง สำหรับใครที่ไปทางฝั่งพะเยาสามารถที่จะเลือกลงทางฝั่งลำปางได้ แต่ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 ฝั่งเพื่อจะจัดเตรียมอำนวยความสะดวก และสามารถนำทางได้ เช่นเดียวกันหากเดินทางมาจากฝั่งลำปางสามารถขอลงทางฝั่งพะเยาได้เช่นกัน ด้านบนดอยนั้นยังมีพระธาตุดอยหนอกที่มีอายุราว 100 ปีมาแล้ว ภายในมีรอยพระพุทธบาทให้กราบสักการะได้อิ่มบุญกันก่อนกลับอีกด้วย และนอกจากนี้ยังสามารถชมวิวของควานพะเยา วิวจังหวัดเชียงใหม่ และวิวจังหวัดเชียงรายได้อีกด้วย เรียกได้ว่ามาที่เดียวเที่ยวได้ 4 จังหวัดกันไปเลย และหากโชคดีก็จะได้พบกับทะเลหมอกได้อีกด้วย

สำหรับการเดินทางขึ้นไปพิชิตดอยหนอกนั้นสามารถกางเต้นท์นอนพักแรมได้ เนื่องจากเป็นเส้นทางติดต่อกันกับดอยหลวง ซึ่งอยู่สูงกว่าไปว่า จะเลือกเที่ยวที่ใดก่อนก็สามารถทำได้อย่างที่ต้องการ สำหรับการเดินทางจะมีการใช้รถอีแต๊น ก่อนระยะหนึ่ง โดยรถอีแต๊นเป็นบริการจ้างจากชาวบ้านที่เตรียมไว้คอยให้ความอำนวยสะดวกแก่นักท่องเที่ยวผู้พิชิตทุกท่าน และมีบริการหาบของสัมภาระให้บริการด้วย การท่องเที่ยวดอยหนอกนั้นไม่เหมาะอย่างยิ่งกับผู้ที่มีความอดทนต่ำ ไม่ได้มีใจรักในธรรมชาติ เพราะต้องเผชิญกับภัยธรรมชาติที่ไม่คาดคิด เนื่องจากปัจจุบันฤดูกาลมีความเปลี่ยนแปลงบ่อย อีกทั้งสัตว์ขนาดเล็ก และแมลงรบกวนที่น่าลำคราญอย่างยุ่งยังมีเป็นจำนวนมาก แต่หากทนได้คุณจะได้พบดวงดาวทามกลางสายหมอกบนท้องฟ้า และดวงดาวระยิบบนพื้นดินที่คุณจะต้องประทับใจไม่รู้ลืม

 

ทองคำหลวงสีดำ ไข่ปลาสุดล้ำค่าจากจังหวัดเชียงใหม่

                ภัยแล้งและอุทกภัย ดูจะเป็นปัญหาที่หนักหนาสำหรับประเทศไทยที่เกิดขึ้นในทุก ๆ ปี แต่ชาวต่างชาติจำนวนมากก็ยังว่าเมืองไทยเป็นเมืองโชคดีที่ไม่หนาวจนแหล่งน้ำในธรรมชาติกลายเป็นน้ำแข็ง ซึ่งจะส่งผลต่อการเพาะปลูกพืชผลทางการเกษตร การเพาะเลี้ยงสัตว์ และการประมง ด้วยอากาศที่เหมาะสมแบบนี้ จึงทำให้คนในประเทศไทยมีอาหารไว้ล่อเลี้ยงได้อย่างไม่ขาดแคลนหรืออดอยาก อย่างคำกล่าวที่ว่า ประเทศไทยนั้นอุดมสมบูรณ์ในน้ำมีปลาในนามีข้าว แปลว่า ประเทศไทยสามารถอยู่ได้โดยไม่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีใด ๆ อยู่กันได้ด้วยตนเองมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ และในปัจจุบันนี้เองที่พบว่าประเทศไทยสามารถเพาะปลูกพืชต่างประเทศได้มากมาย หลากหลายขึ้นกว่าแค่พืชในท้องถิ่นเดิม อย่างเช่น องุ่น สตอเบอร์รี่ บล็อกโคลี พลับ สาลี กีวี ราสพ์เบอร์รี่ พีช อโวคาโด แครรอท ลูกฟลิกหรือมะเดื่อฝรั่ง ถือเป็นการสร้างรายได้เพิ่มให้แก่เกษตรกรชาวไทย นอกจากนั้นยังมีการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำทางประมง ที่ให้ผลผลิตเป็นทองคำสีดำที่มีค่า หรือที่เรียกกันว่า “คาเวียร์”

ไข่ปลาคาเวียร์แท้จริงแล้วไม่ได้มาจากปลาคาเวียร์ แต่มาจากปลาสเตอเจียน หรือ sturgeon เป็นปลาที่มีถิ่นกำเนิดที่แถบทะเลแคสเปียน เกิดในแหล่งน้ำจืด เมื่อโตพอก็จะว่ายออกสู่ทะเล และถึงฤดูวางไข่ก็จะกลับมาวางไข่ที่แหล่งน้ำจืด คล้ายกันกับปลาแซลมอล โดยปลาสเตอเจียนถูกนำมาเพาะเลี้ยงที่โครงการพระราชดำริบ้านเล็กในป่าใหญ่ ตำบลเมืองแหง อำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่ สร้างมูลค่าเพิ่มได้อย่างมหาศาล โดยไข่ปลาคาเวียร์ขนาดบรรจุ 100 กรัม จำหน่ายในราคา 5,000 บาท และกระปุกเล็กขนาด 25 กรัม ราคา 1,300 บาท แต่ยังนับว่าเป็นราคาที่ไม่แพงไปเลยสำหรับสินค้าคุณภาพในโครงการหลวงอีกหนึ่งรายการ หากเทียบกับการนำเข้า ซึ่งคุณภาพไม่แตกต่างกัน

โดยประชาชนทั่วไป หากสนใจเข้าชม สามารถเยี่ยมชมฟาร์มตัวอย่างได้ในวันและเวลาราชการ และทางโครงการยินดีจะเผยแพร่ความรู้แก่เกษตรกรรายอื่น ๆ ที่สนใจอีกด้วย สำหรับท่านได้ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติและรักการช้อปปิ้งสินค้าคุณภาพเป็นชีวิตจิตใจ จังหวัดเชียงใหม่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติในโครงการพระราชดำริอื่น ๆ อีกจำนวนมาก และมีสินค้าโครงการหลวงภายใต้แบรนด์ ศิลปกรจำหน่ายอีกมากมาย

หนึ่งสิ่งที่มักมาคู่กันกับการท่องเที่ยว คือการซื้อของฝากกลับไปให้คนที่บ้านหรือที่ทำงาน การได้เดินเลือกซื้อสินค้า และผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่มีคุณภาพและมีคุณค่ากับการมาเยือนสถานที่นั้น ๆ ย่อมเกิดผลประโยชน์กับทั้งตัวผู้ให้ ผู้รับ และผู้จำหน่าย สินค้าในโครงการหลวงหลายรายการเป็นสินค้าที่มีคุณภาพดี ทั้งยังช่วยอุดหนุนเกษตรกรให้มีกำลังใจในการผลิตสินค้าที่ดีต่อไป

 

ท่องเที่ยวแกรนด์แคนยอนเมืองไทย จากแพร่ถึงน่าน

สถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติในประเทศไทยเองมีเป็นจำนวนมาก เนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความงดงามทางธรรมชาติที่สมบูรณ์ โดยจะดูได้จากประเทศไทยมีอุทยานและวนอุทยานจำนวนมาก พื้นที่ทางแถบภาคเหนือนี้เองก็มีแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ อุทยานแห่งชาติน้ำตกชาติตระการ อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว แต่ที่จะกล่าวถึงในที่นี้เป็นอุทยานของธรรมชาติที่ต่างกันออกไปเล็กน้อย คือ แกรนด์แคนยอนในแถบภาคเหนือของประเทศไทย อย่างแพะเมืองผี วนอุทยานแห่งชาติแพะเมืองผีจังหวัดแพร่ และฮ่อมจ๊อม อุทยานแห่งชาติศรีน่าน จังหวัดน่าน

ทั้งแพะเมืองผี และฮ่อมจ๊อมเกิดจากการที่แหล่งน้ำในฤดูน้ำหลาก กัดเซาะหินทรายตามธรรมชาติเป็นเวลานาน จนทำให้เกิดเนินดินทราย และเสาดินจำนวนมาก ๆ แต่ละมุมของพื้นที่มีความแตกต่างกันออกไปตามกาลเวลา สถานที่ดังกล่าวมาทั้ง 2 สถานที่มีความงานทางธรณีวิทยาเป็นอย่างมาก นับเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สามารถใช้ศึกษาลักษณะทางปฐพีวิทยาที่จัดว่ามีความงดงามไม่แพ้แกรนด์แคนยอนในต่างประเทศเลยก็ว่าได้

โดยแพะเมืองผีนั้นมีอายุมานานตั้งแต่ยุคควาเทอร์นารี (Quaternary) หรือราว ๆ 10,000-30,000 มาแล้ว ความหมายของคำว่า แพะเมืองผีคือ ป่าละเมาะที่มีความเงียบสงบไร้ผู้คน นอกจากนี้ยังมีตำนานอีกว่า มีหญิงชราหาของป่าขาย วันหนึ่งเดินไปพบทองคำกลางป่า แต่ด้วยความชราทำให้นำทองกลับมาไม่ได้ เขาจึงไปเรียกคนมาช่วยในวันรุ่งขึ้น หญิงชรากลับไม่พบทองพบเพียงรอยเท้าเดินมุ่งหน้ามายังแพะเมืองผีในปัจจุบัน ความลึกลับที่น่าหลงใหลทำให้มีผู้คนไปเยี่ยมชมสถานที่ดังกล่าวจำนวนมาก แต่ยังมีคนส่วนน้อยที่จะรู้จักฮ่อมจ๊อม

ฮ่อมจ๊อมนั้นอยู่ไม่ไกลจากจังหวัดแพร่มากนัก หากเดินทางไปเที่ยวชมแพะเมือผีจังหวัดแพร่แล้ว สามารถเดินทางไปเที่ยวต่อที่จังหวัดน่านได้ไม่ยาก อีกทั้งจังหวัดน่านเองก็มีความสวยงาม เงียบสงบ มีใครบางคนเคยบอกไว้ว่า จังหวัดน่านนาน ๆ เจอกัน เนื่องจากจังหวัดน่านเป็นจังหวัดที่ไม่ค่อยมีคนผ่านมาแวะเที่ยวชมมากนัก และไม่ใช่จังหวัดที่จะผ่านไปเที่ยวจังหวัดอื่นต่อไป ฮ่อมจ๊อม เป็นคำที่ชาวบ้านใช้เรียกพื้นที่ดังกล่าว และฮ่อมจ๊อมนี้เองยังเคยเป็นคอกเสือ โดยไล่ต้อนเสือไปยังคันสันดินที่ธรรมชาติ และปลิดชีวิตสัตว์ร้าย ณ คอกเสือนั้น นับเป็นเชาว์ปัญญาชาวบ้านที่ใช้ชัยภูมิพื้นที่ ที่คุ้นชินในการแก้ปัญหาสัตว์เลี้ยงอย่าง ม้า วัว ควายถูกจับกิน

อย่างไรก็ดีการท่องเที่ยวในทุกสถานที่มีความพิเศษที่แตกต่างกันออกไป ทั้งจังหวัดน่านและจังหวัดแพร่มีวัฒนธรรมดำเนินชีวิตที่น่าสนใจไม่แพ้กัน การไปท่องเที่ยวในทั้ง 2 จังหวัดจะทำให้ได้พบประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมอย่างที่หาคำใดมาพรรณนาไม่ได้เลยนอกจากการได้สัมผัสด้วยตัวเอง

 

ชวนชมสถาปัตยกรรมเด่น เที่ยวเมืองขนมหม้อแกง เพชรบุรี

เมื่อพูดถึงแหล่งท่องเที่ยวเชิงศิลปะที่ไม่ไกลกรุงเทพมากนัก จังหวัดเพชรบุรีก็นับเป็นตัวเลือกที่ดีไม่น้อย เพราะเป็นจังหวัดที่มีเอกลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมที่สวยงาม และมีที่มาน่าสนใจไม่น้อยเลยที่เดียว  เมื่อพูดถึงแหล่งท่องเที่ยวเมืองเพชรบุรี ผู้คนส่วนใหญ่จะนึกถึง อุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี หรือที่ผู้คนในจังหวัดเรียกกันติดปากว่า “เขาวัง” เป็นพระราชวังที่สร้างขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งตั้งอยู่ในตัวเมืองเพชรบุรี มีลักษณะสถาปัตยกรรมแบบยุโรปผสมผสานสถาปัตยกรรมไทยและจีน ซึ่งได้มีการจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับพระราชประวัติของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทั้งนี้ยังแสดงให้เห็นรอยประวัติศาสตร์สมัยนั้นผ่านสถาปัตยกรรมได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

สำหรับคนที่มาท่องเที่ยว ทางขึ้นเขาวังนั้น จะมีอยู่ 2 ทาง คือทางรถรางไฟฟ้า และทางเดินเท้า โดยสำหรับผู้สูงอายุขอแนะนำให้ขึ้นรถรางดีกว่า แต่ถ้าเป็นวัยรุ่นหน่อยเดินขึ้นเขาก็ไปไกลมากนั้น แถมยังได้ชมบรรยากาศรอบ ๆ วัง ก็จะได้โมเม้นต์ที่ดีไปอีกแบบ และจุดเด่นอีกอย่างของเขาวังก็คือ เจ้าลิงตัวน้อย ๆ ทั้งหลายที่วิ่งเล่นกันเต็มเขาวังนั้นเอง งานนี้สำหรับใครที่ชอบถือของหรือสะพายกระเป๋าก็ต้องระวังกันด้วยเพื่อความปลอดภัย สำหรับค่าเข้าชมอยู่ที่ คนไทย 60 บาท คนต่างชาติ 190 บาท ราคานี้รวมค่ารถรางแล้ว

หลังจากลงเขาวังมาแล้วเราก็ไปต่อกันที่ พระรามราชนิเวศน์ หรือที่คนเพชรบุรีเรียกกันว่า วังบ้านปืน พระราชวังหลังนี้สร้างขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และสร้างเสร็จสมบูรณ์ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งโดยออกแบบโดยช่างชาวเยอรมนี สถาปัตยกรรมแบบบาโรคผสมผสานแบบอาร์ต นูโว หรือที่เยอรมันเรียกว่า จุงเกนสติล โดยจะเน้นความทันสมัยโดยจะไม่มีลายปูนปั้นวิจิตรพิสดารมาก พระราชวังหลังนี้จะเน้นเรื่องความสูงของหน้าต่าง ประตู และเพดาน ซึ่งทำให้พระราชวังนั้นเต็มไปด้วยความวิจิตรงดงามและเต็มไปด้วยกลิ่นอายความคลาสสิกแบบตะวันตก โดยเริ่มตั้งแต่กระเบื้องสีน้ำตาล ที่นำเข้าจากยุโรปที่ซึ่งแบบเดียวกันกับที่ใช้สร้างพระราชวังของพระเจ้าวิลเฮิร์มไกเซอร์แห่งประเทศเยอรมัน

จุดเด่นที่พลาดไม่ได้ คือเหล่า คิวปิดตัวน้อยตามแถวบันไดกลางโถงพระราชวัง โดยแต่ละห้องนั้นจะมีการใช้สีที่แตกต่างกันอันเป็นรูปแบบเฉพาะของสถาปัตยกรรมแบบอาร์ต นูโว ทำให้พระราชวังแห่งนี้ดูสวยงามและน่าเที่ยวชมอย่างมาก ทั้งนี้ใครที่ชอบสถาปัตยกรรมแบบยุโรปไม่ควรพลาด โดยเข้าชมได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น ค่าเข้า คนไทย 20บาท คนต่างชาติ 50 บาท

สำหรับของฝากนั้นเมื่อมาเพชรบุรีแล้วที่ต้องซื้อกลับ นั้นก็คือ ขนมหม้อแกง และน้ำตาลสด โดยจัดว่าเป็นของฝากที่อร่อย และมีให้เลือกหลากหลายร้าน และยังสามารถซื้อผลงานของกลุ่มแม่บ้านทหารที่ร้านของฝากบริเวณวังบ้านปืนเป็นของติดไม้ติดมือกลับได้อีกด้วย

 

หาดบางแสน ทะเลใกล้กรุง แหล่งผ่อนคลายชั้นดีของคนรักทะเล

หากอยากพักผ่อนชายทะเลสักแห่งที่ไม่ไกลเมืองกรุงมากนัก หาดบางแสนก็นับว่าเป็นตัวเลือกที่ดีไม่น้อย ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองชลบุรีเพียง 10 กิโลเมตร การเดินทางมาจากกรุงเทพ ให้ขับมาตามถนนสุขุมวิท เลี้ยวซ้ายตรงสามแยกกาแล็คซี ขับตรงผ่านหน้ามหาวิทยาลัยบูรพา จะเจอกับวงเวียนบางแสน  เมื่อมาถึงวงเวียนบางแสนแล้วจะพบกับบรรยากาศ ลมเย็นสบาย ถึงแดดจะออกแต่ก็ไม่ร้อนมาก ตัวหาดบางแสนจะแบ่งเป็น 2 โซนคือหาดบางแสนล่าง และตัวหาดบางแสนสำหรับผู้ที่ชอบเที่ยวทะเลแบบเอาบรรยากาศ อย่างเดียวไม่ลงเล่นน้ำ แนะนำให้ขับลงสู่ถนนเลียบหาดบางแสนล่าง ในช่วงเย็นของวัน จะพบกับร้านอาหาร ร้านนม บาร์ หรือจะปูเสื่อนั่งดื่มเอาบรรยากาศบนหาดเลย ก็จะได้อารมณ์บรรยากาศไปอีกแบบ

ในช่วงเวลาปกติ ขับรถเลาะเลียบชายทะเลหาดบางแสนด้านบน จะเริ่มสังเกตเห็นเปลผ้าใบและร่มอันเป็นสัญลักษณ์โดยทั่วไปของชายทะเล โดยราคาเปลที่นั่งเริ่มต้นที่ ราคา 60 บาท พอไปนั่งแล้วจะมีแม่ค้านำรายการอาหารให้เลือกสั่งทานมากมาย อาทิ ข้าวผัดทะเล ทะเลลวกจิ้ม กุ้งเผา หมึกย่าง ส้มตำ สำหรับคนที่ชอบความสนุกท้าท้าย บริเวณริมหาดจะมีบริการให้เช่าบานาน่าโบ๊ท หรือโดนัทให้เล่นกันอยากสนุก โดยราคาอยู่ที่ 200-300 บาท ต่อรอบ หรือแบบเหมารอบ ก็ตกลงราคากับคนขับได้เลย ในยามสายของวันจะมีชาวบ้าน ชาวประมงท้องถิ่นมานั่งเก็บหอยทรายกันเป็นจุด ๆ ถัดไปไม่ไกลนักจะเห็นชาวประมงพายเรือที่ทำจากเจ็ทสกีเก่า ออกไปวางตาข่ายดักปลากลางทะเล ก็นับว่าเป็นกลิ่นอายของวิถีชีวิตของผู้คนริมทะเล

สำหรับช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับมาท่องเที่ยวนอกเหนือจากฤดูร้อนแล้ว ช่วงต้นฤดูหนาวก็นับเป็นช่วงเวลาที่ดี เพราะอากาศไม่ร้อนมาก หาดสะอาด น้ำทะเลใส ในช่วงเวลานี้ลงเล่นน้ำห่างจากหาดไม่ไกล แนะนำให้ลองดำน้ำแบบดำผิวน้ำ ก็จะเห็นปลาทูข้างเหลืองตัวน้อย ๆ ว่ายผ่านเป็นกลุ่ม แถมราคาอาหารและค่าบริการต่างจะถูกว่าช่วงไฮซีซันค่อนข้างมาก ริมหาดยังมีที่พักให้เลือกหลายแบบ ตั้งแต่โรงแรมติดดาวไปจนถึงห้องพักเล็ก ๆ รายวัน ราคาก็มีให้เลือกหลากหลาย

สำหรับของฝากนั้น นอกจากโมบายที่ทำจากเปลือกหอยแล้ว แนะนำให้ขับรถไปที่ตลาดประมงพื้นบ้านอ่างศิลา โดยนับว่าเป็นแหล่งของฝากที่ดีมากทีเดียว เพราะมีทั้งอาหารทะเลสด ๆ พร้อมบริการบรรจุกล่องโฟมพร้อมน้ำแข็งฟรีอีกด้วย ส่วนอาหารแห้งนั้นก็มีให้เลือกมากมาย ตั้งแต่ ปลาทูหอม ปลาหมึกแห้ง ปลากุเลาแห้ง โดยจะมีทั้งร้านใหญ่ที่มีของให้เลือกมากมาย และแผงขายปลาเล็ก ๆ จากชาวบ้าน อีกด้วย ด้านบนของตลาดจะมีโซนร้านอาหารให้นั่งทานเพื่อเติมพลังก่อนเดินทางกลับอีกด้วย

 

ฮานามิ ณ ภูลมโล ความงามรับต้นปี ทุกพื้นที่เป็นสีชมพู

“ฮานามิ” คำที่มาจากภาษาญี่ปุ่น คือ การชมดอกไม้ร่วมกันกับคนที่เรารัก อย่างเพื่อน ครอบครัว ร่วมรับประทานอาหาร ชมความงามของดอกไม้ไปพลางพูดคุยสรวนแสเฮฮากัน ซึ่งตลอดปีจะมีช่วงที่ดอกไม้ผลิบานสะพรั่งเหมาะแก่การชื้นชม การฮานามิ ไม่ได้ถูกจำกัดว่าต้องชมเฉพาะดอกซากุระเท่านั้น ดอกไม้ชนิดอื่น ๆ ก็ถือเป็นการฮานามิเช่นกัน

ความสุข ความสนุกของการชมดอกไม้บานนั้นยังสามารถทำได้ในหลายพื้นที่ หลายจังหวัดในประเทศไทย นับเป็นโชคดีที่ประเทศไทยสามารถเพาะปลูกพืชได้หลากหลายชนิด ไม่ใช้แค่เพียงพรรณไม้เมืองร้อนเท่านั้น แต่พรรณไม้เมืองหนาว รวมทั้งพันธุ์ไม้พื้นถิ่นที่ชอบอากาศเย็น ประเทศไทยเองก็มีความงานให้ชมได้ตลอดทั้งปี อย่างเช่น ต้นพญาเสือโคร่งที่มีความงามไม่แพ้ซากุระ และเหมาะกับฮานามิ ซึ่งได้มีการทำการเพาะปลูกจำนวนมากในอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าก็น่าชื่นชมเหมือนกัน

ช่วงต้นปีระหว่างเดือนมกราคม จนถึงเดือนแห่งความรักกุมภาพันธ์ ณ ภูลมโล อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า  ตำบลเนินเพิ่ม อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก จะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากไปเที่ยวชมดอกพญาเสือโคร่ง ซึ่งมีความงามเหมือนได้ไปชมดอกวากุระที่ญี่ปุ่น อีกทั้งบรรยากาศยอดภูช่วงต้นปียังทำให้รู้สึกดีเหมือนได้เดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ โดยต้นพญาเสือโคร่งนั้นได้มีการเพาะปลูกด้วยความร่วมมือกัน ระหว่างเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติและชาวบ้าน บนเนื้อที่กว่า 2,000 ไร่ มีด้วยกัน 4 โซน มีสินค้าจำหน่ายจากชาวบ้าน เป็นพืชผักเมืองหนาวที่ชาวบ้านเพาะปลูกได้เองในพื้นที่ อย่างเช่น แครอท กระหล่ำดอก บล็อกโคลี และผลไม้ยอดฮิตอย่างสตอเบอร์รี่ก็มี และนอกจากนี้ยังมีรถบริการรับส่งระหว่างขึ้นภูจากชาวบ้าน นับเป็นการส่งเสริมรายได้ในกับชาวบ้าน ชาวเขาในพื้นที่ เป็นการท่องเที่ยวที่ให้ความสุขสดชื้นรับต้นปี

สำหรับการไปเที่ยวตามอุทยานต่าง ๆ เองในทุกพื้นที่ในประเทศไทยเองมักจะมีร้านค้าขายอาหารและเครื่องดื่มของชาวบ้านค่อยให้บริการความอิ่มอร่อย แก่นักท่องเที่ยวที่หิวกระหาย มีความต้องการที่อยากเติมเต็มทั้งทางจิตใจและอิ่มท้อง โดยที่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าเองก็เช่นเดียวกัน มีร้านค้าชาวบ้านไว้บริการเหล่านักท่องเที่ยวตลอดทาง เป็นเรื่องดีที่เงินได้เกิดการหมุนเวียนในประเทศ หากแต่สิ่งที่มักมากกับการกินอาหารคือ ขยะ พลาสติก ขวดแก้ว ซึ่งหลายที่ในประเทศไทยมักจะปล่อยหน้าที่เก็บกวาดให้เจ้าหน้าที่ และชาวบ้านในพื้นที่ อยากจะให้นักท่องเที่ยวนำวัฒนธรรมดี ๆ อย่างการฮานามิของชาวญี่ปุ่นมาปรับใช้คือ การรักษาความสะอาด เป็นชมดอกไม้ด้วยการอนุรักษ์ ไม่เด็ดดอกหรือหักกิ่งก้านของดอกไม้  เพราะความงามของดอกไม้จะงามที่สุดตรงที่มันยังอยู่กับต้น และค่อยเคลื่อนคล้อยลงสู้พื้นอย่างสวยงามตามธรรมชาติของมัน

 

อาบออนเซ็นไม่ต้องไปไกลถึงญี่ปุ่น ที่อำเภอฝาง เชียงใหม่บ้านเราก็มี

ไม่ใช่เพียงญี่ปุ่นเท่านั้นที่มีแหล่งอาบน้ำร้อนตามธรรมชาติ ในประเทศไทยเองก็มีแหล่งอาบน้ำพุร้อนหลายที่ด้วยกัน โดยวัฒนธรรมการอาบน้ำพุร้อน บ่อน้ำร้อนนั้นทางเหนือเรียกว่าโป่งน้ำร้อน การอาบออนเซ็นนั้นมีข้อดีหลายประการ อย่างเช่น ช่วยในเรื่องการหมุนเวียนระบบเลือด ผิวพรรณที่สดใสขึ้น เนื่องจากการอาบน้ำพุร้อนจากแหล่งธรรมชาติมีแร่ธาตุที่เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยในเรื่องสุขภาพ ชาวญี่ปุ่นจำนวนมากจึงนิยมการแช่น้ำพุร้อนเป็นประจำ ส่งผลให้อัตราเฉลี่ยอายุของชาวญี่ปุ่นมีอายุที่ยืนยาว อีกทั้งวัฒนธรรมชาวญี่ปุ่นยังนิยมอาบน้ำรวมกัน หรืออาบเป็นครอบครัว เพื่อสร้างสัมพันธ์อันดีระหว่างกันทั้งในกลุ่มเพื่อน และความอบอุ่นแบบครอบครัว อาจฟังดูขัดหูของชาวไทย เพราะประเทศไทยมักไม่นิยมอาบน้ำร่วมกัน อีกทั้งยังพบกับสภาพอากาศที่ร้อนปรอทแตก แต่ถ้าหากรู้จักอำเภอฝางจะรู้ดีว่าอำเภอดังกล่าวมีสภาพอากาศที่หนาวเกือบตลอดปี การอาบออนเซ็นจึงสามารถอาบได้เกือบตลอดทั้งปีที่อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่

การใช้งบจำนวนมาก ๆ ในการบินข้ามน้ำข้ามทะเลไปถึงญี่ปุ่นอาจดูเป็นเรื่องใหญ่สำหรับบางคน แถมยังต้องลางานหลาย ๆ วัน หากจะไปอาบออนเซ็นเพียงอย่างเดียวคงจะไม่คุ้มแน่ จึงอยากเชิญชวนให้มาเที่ยวในประเทศไทย ที่มีแหล่งอาบน้ำพุร้อนหลายที่ สำหรับโป่งน้ำร้อนอำเภอฝางนั้นเป็นแหล่งน้ำพุร้อนที่ตั้งอยู่ทามกลางธรรมชาติสีเขียวชอุ่ม ล้อมรอบด้วยต้นไม้จำนวนมาก ณ อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก โดยทางอุทยานเองได้มีบริการห้องอาบน้ำแร่ และห้องอบไอแร่ให้บริการในราคาไม่แพง และมีห้องอาบน้ำแยกเป็นส่วนตัว ภายหลังการอาบน้ำสามารถมาลวกไข่รับประทานได้ โดยทางอุทยานก็มีไข่จำหน่ายในราคาไม่แพง หรือจะเตรียมมาเองก็ได้

นอกจากนี้ยังได้ตื่นตาตื่นใจกับบ่อน้ำพุร้อนที่มีอุณหภูมิร้อนมากถึง 80-100  องศาเซลเซียส เหมาะกับการเก็บภาพบรรยากาศทั้งธรรมชาติสวย ๆ บนเส้นทางศึกษาธรรมชาติ การอาบน้ำร้อน และชมน้ำพุร้อนที่นี่สามารถทำได้ทุกฤดูไม่ใช่เพียงฤดูหนาวเท่านั้น

ความสุขของการไปเที่ยวโป่งน้ำพุร้อน หรือการไปอาบออนเซ็นแบบญี่ปุ่นนั้น คุณค่าของมันไม่ได้อยู่ที่สถานที่ที่ไป หากอยู่ที่การได้ไปกับคนที่เรารัก ครอบครัว กับเพื่อนสนิท ทำให้ได้ใช้เวลาร่วมกัน และยังเป็นการพาตัวเองออกไปพบปะผู้คนใหม่ ๆ สถานที่ใหม่ ๆ อย่างชาวบ้าน ชาวเขาในพื้นที่ ที่มักจะมีสินค้าพื้นเมืองมาขาย อีกทั้งอำเภอฝาง ยังมีเขตติดต่อกับแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกมาก นับว่าเป็นการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพทั้งทางกาย และทางใจ กระเป๋าตัง

 

รับลมทะเลจากเมืองชล ชิลไปเรื่อยถึงอ่างศิลา

                คงปฎิเสธไม่ได้ว่าการขับรถไปท่องเที่ยวด้วยตนเองนั้น เป็นสิ่งที่สะดวกสบายที่สุดในยุคนี้ เพราะทุกบ้านทุกครัวเรือนในบ้านเรานั้นต่างก็มียานพาหนะหลายรูปแบบไว้ใช้เพื่อความสะดวกในชีวิตประจำวัน ถนนก็เป็นสิ่งคู่กันกับยานพาหนะ ในประเทศไทยเราเองมีถนนหลายเส้นที่หน้าเดินทางสัญจร ทั้งเพื่อผ่านชมทัศนียภาพ และแวะพักรถภายหลังจากเดินทางเป็นระยะทางไกล ๆ หากใครหลายคนเป็นคนหนึ่งที่คุ้นชินกับการไปทำงานแต่เช้า รถติดยาวต่อการหายชั่วโมง จนรู้สึกเบื่อกับกลิ่นควันจากท่อไอเสียรถ รถเมล์โดยสาร แดดร้อน และเด็กขายพวงมาลัย หากเหตุผลต่าง ๆ ทำให้รู้สึกว่าร่ายกายต้องการขี่รถออกไปที่ที่สามารถพักผ่อนได้ ขอแนะนำถนนเลียบชายทะเลจังหวัดชลบุรี

ด้วยความยาวของระยะทางกว่า 1.5 กิโลเมตร จากตัวเมืองจังหวัดชลบุรีถึงเส้นอ่างศิลา ซึ่งรับรองได้ว่าคุณจะไม่รู้สึกอึดอัดกับการขับขี่ใด ๆ ตลอดเส้นทาง คุณสามารถเพลิดเพลินกับวิวทะเลที่ทอดตัวยาวจนถึงบางแสน นอกจากนี้ตลอดการเดินทางคุณสามารถแวะเที่ยวชมตลาดชาวประมง ณ ท่าเรือพลี จะมีชาวประมงออกมาขายสินค้าชาวบ้านทุกวันเสาร์ ตั้งแต่ 16:00 น. ถึง 22:00 น. และแวะซื้อของฝากจากชาวบ้านได้ หรือจะจอดรถชมพระอาทิตย์ตกดินได้อย่างผ่อนคลายสุด ๆ และยังมีจุดถ่ายรูปกับงานประติมากรรมต่าง ๆ ได้เป็นระยะ ๆ ตั้งแต่ต้นทางที่ถนนสุขุมวิทจากตัวกรุงเทพ และสามารถขับต่อไปยังอ่างศิลา เลื่อยไปจนถึงชายหาดบางแสน โดยตลอด 2  ข้างทางจะเต็มไปด้วยร้านกาแฟ และร้านอาหารอร่อยหลายร้าน ให้ผ่อนคลายกับบรรยากาศริมทะเล ซึ่งหากผ่านอ่างศิลาของให้แวะเดินเลือกซื้ออาหารทะเลสด และของฝากได้ที่ตลาดใหม่อ่างศิลา โดยเมื่อซื้ออาหารทะเลสดแล้วทางร้านยังมีบริการ นึ่ง ต้ม ย่าง พร้อมฟรีน้ำจิ้มแซบ สะใจ ให้หิ้วไปกินต่อถึงชายหาดบางแสนได้ไม่ไกล หรือจะวินเทจริมทางแสนบางแสนก็มีจุดให้นั่งอิ่มอร่อยได้หลายสไตล์

ชลบุรีเป็นจังหวัดที่อยู่ห่างจากกรุงเทพราว 80 กิโลเมตร หากต้องการหลีกหนีความวุ่นวายให้ตัวเมืองใหญ่ ขับรถรับลมเย็น ๆ สูดอากาศบริสุทธิ์ ดูพระอาทิตย์ตก เต็มอิ่มกับอาหารอร่อย ชลบุรีก็เป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวที่ยังรอให้ได้ไปเยือน ชาร์ตพลังงานเต็มที่ แล้วก็ขับรถกลับได้ไม่ไกลมาก ค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวนั้นก็ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ ซึ่งอันที่จริงการมาท่องเที่ยวชลบุรีนั้นไม่ได้ใช้งบประมาณมากเกินไปอย่างที่คิด และยิ่งช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ถนนเส้นดังกล่าวยังสามารถขับเลื่อยมาจนถึงถนนคนเดินได้

ทั้งหมดที่กล่าวมานี้เป็นการท่องเที่ยวพักผ่อนแบบใช้เวลาในการเดินทางไม่มาก แต่ได้คุณภาพของการผ่อนคลาย และยังมีจุดท่องเที่ยวที่ยังไม่ได้กล่าวอีกมากตลอดเส้นทางเรียบชายทะเลจังหวัดชลบุรี