ไปเมื่อไรตกหลุมรักเมื่อนั้นกับตัวเมืองเล็ก ๆ นามว่า “อุทัยธานี”

“อุทัยธานี” เป็นหนึ่งในจังหวัดที่ตั้งอยู่ภาคกลางของประเทศไทย มีแม่น้ำที่สำคัญไหลผ่านด้วยกันสองสาย คือ แม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำสะแกกรัง หากถามนักท่องเที่ยวทั่ว ๆ ไปแล้ว สถานที่ท่องเที่ยวในตัวเมืองอุทัยธานีนั้น ดูเหมือนจะเป็นตัวเลือกที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ไม่ค่อยจะนึกถึงกันมากสักเท่าไหร่ บางคนก็อาจจะมีโอกาสแค่ผ่านไปผ่านมากับถนนสายหลักที่ใช้เดินทางขึ้นเหนือได้อีกหนึ่งเส้นทาง แต่เชื่อเหลือเกินว่าหากใครก็ตามที่ได้มีโอกาสแวะเวียนเข้ามาเที่ยวยังตัวเมืองอุทัยธานีแห่งนี้ ก็คงจะตกหลุมรักเมืองเล็ก ๆ แห่งนี้ได้ไม่ยาก

ดูเผิน ๆ แล้วตัวเมืองอุทัยธานีอาจไม่ได้มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าตื่นตาตื่นใจมากเท่ากับสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดอื่น แต่หากพิจารณาให้ดีแล้วมนต์เสน่ห์ที่ชวนให้หลงใหลก็คงจะเป็นความสงบเงียบ และการดำเนินชีวิตของชาวบ้านในชุมชนที่เป็นไปอย่างไม่รีบเร่งเฉกเช่นคนในเมืองใหญ่อื่น ๆ นี้เอง เพราะบางครั้งการที่เราได้มีโอกาสอยู่กับใจตนเองเงียบ ๆ ก็เป็นการพักผ่อนจิตใจที่ดีที่สุดอีกทางหนึ่งได้เหมือนกัน แต่จะว่าไปแล้วสถานที่ท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็นในตัวเมืองเอง หรือบริเวณใกล้เคียงก็มีให้นักท่องเที่ยวไปสัมผัส ไปเยี่ยมชมจำนวนไม่น้อยเหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่น

วัดสังกัสรัตนคีรี

วัดสังกัสรัตนคีรี หรือที่รู้จักกันดีในชื่อวัดเขาสะแกกรัง เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของเมืองอุทัยธานี โดยถูกสันนิษฐานว่าวัดนี้ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ.2443 ตั้งอยู่บนยอดเขาสะแกกรังซึ่งตั้งอยู่บริเวณตะวันตกของตัวเมืองอุทัยธานี ทำให้สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองอุทัยธานีเบื้องล่าง ที่ถูกขนาบไปด้วยขุนเขาทางด้านซ้ายและแม่น้ำสะแกกรังทางด้านขวา ณ ที่แห่งนี้มีประเพณีที่สำคัญประจำจังหวัดอย่างประเพณีตักบาตรเทโว ที่มักจะถูกจัดขึ้นทุกปี ในทุก ๆ วันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ดังที่ระบุไว้ในคำขวัญของจังหวัดอุทัยธานี

วัดจันทาราม

วัดจันทาราม หรือที่มักจะได้ยินผู้คนที่เคยผ่านไปผ่านมาเรียกกันจนติดปากว่า “วัดท่าซุง” ภายในวัดมีสถาปัตยกรรมที่วิจิตรงดงาม อาทิ วิหารแก้ว 100 เมตร ซึ่งภายในประดับไปด้วยกระจกทั้งหลังและยังเป็นที่เก็บสังขารที่ไม่เน่าเปื่อยไปตามกาลเวลาของหลวงพ่อฤๅษีลิงดำอันเป็นที่นับถือของลูกศิษย์มากมาย ปราสาททองคำ (กาญจนาภิเษก) ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปมากมายที่ประชาชนผู้มีจิตศรัทธานำมาถวายไว้ พิพิธภัณฑ์สมบัติพ่อให้ ซึ่งเป็นที่จัดแสดงที่พักจำลองรวมทั้งข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ที่หลวงพ่อฤษีลิงดำเคยใช้ และที่พักปฏิบัติธรรมพินิจอักษร ที่มีไว้เพื่อให้ผู้ที่ต้องการมาปฏิบัติธรรม หรือแม้แต่บุคคลทั่วไปที่สนใจเข้ามาพักค้างคืนได้เพียงแต่ต้องทำตามกฎระเบียบที่ทางวัดวางไว้อย่างเคร่งครัดเท่านั้น โดยราคาค่าที่พักก็จะแตกต่างกันไปตามแต่ละประเภทของห้องพัก

นอกจากวัดวาอารามที่กล่าวถึงแล้ว เสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของสถานที่แห่งนี้คงหนีไม่พ้นตลาดประจำเมือง ที่มีทั้งสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์อย่าง พิพิธภัณฑ์บ้านจงรัก บ้านนกเขา ตลาดเก่าตรอกโรงยา และสถานที่อื่น ๆ ที่น่าไปท่องเที่ยวอย่างบริเวณที่ตั้งหมุดแผนที่โลก ณ ยอดเขาสะแกกรัง ที่สามารถใช้เป็นจุดชมวิวได้ทั้งยามพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกดิน และสิ่งที่ขาดไปไม่ได้สำหรับที่นี่คือร้านขายของกินที่การันตีความอร่อยอย่างโกตี๋ข้าวมันไก่ เจ๊โหนกก๋วยเตี๋ยวไก่ ร้านบะหมี่ฮ่องเต้ และร้านไพพรรณขนมปังสังขยา เป็นต้น อย่างไรก็ดีหากใครมีโอกาสก็ขอให้ลองเปิดใจไปเที่ยวอุทัยธานี เมืองเล็ก ๆ ที่เงียบสงบแห่งนี้กันดูสักครั้ง แล้วเรามาดูกันว่าคุณจะตกหลุมรักสถานที่แห่งนี้จริงหรือไม่